วันที่ 26 กันยายน 2568 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดพิธีเนื่องในวันคล้าย วันก่อตั้งครบรอบ 49 ปี โดยได้รับเกียรติจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ คณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการ ขสมก. บุคลากร สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวาระครบรอบ 49 ปีของ ขสมก. ถือเป็นโอกาสสำคัญในการตอกย้ำบทบาทขององค์กรที่เป็น “เสาหลักของระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล” ซึ่งทำให้ประชาชนเดินทางสะดวก ปลอดภัย และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และย้ำเป้าหมายการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ เชื่อมต่อทุกโหมดการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือ และการเดินทางรูปแบบอื่น เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน ขสมก. ให้บริการรถรวม 2,883 คัน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบชดเชยรายได้รวม 885 ล้านบาท/ปี เพื่อรักษาระดับค่าโดยสารและพัฒนาระบบเดินรถ ขสมก. ย้ำพร้อมเดินหน้าสร้าง “ระบบรถเมล์ไทยยุคใหม่” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนเมือง และในปีนี้ ขสมก. เตรียมเดินหน้าโครงการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV) เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการ ลดมลพิษ และสร้างมาตรฐานใหม่ ของระบบรถเมล์ไทยยุคใหม่จะปรับรถโดยสารธรรมดา 1,520 คัน เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV) ลดมลพิษและประหยัดต้นทุนรวมกว่า 1,442 ล้านบาท/ปี (ประมาณลดค่าเชื้อเพลิงได้ 70% และลดค่า เหมาซ่อมได้ 100%) ส่วนค่าโดยสารก็จะมีมาตรการออกมาจากรัฐบาลในการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ของระบบขนส่งทั้งหมด ซึ่งจะมีการให้รายละเอียดอีกทีในภายหลัง

"เราจะใช้รถร้อนราคา 8 บาทไปจนกว่า รถ EV จะทยอยเข้ามาครบ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม และไม่เพิ่มภาระประชาชน"นายพิพัฒน์ กล่าว

 ด้านนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. รายงานผลการดำเนินงานว่า ปัจจุบัน ขสมก. มีรถโดยสารแบ่งเป็น รถโดยสารธรรมดา 1,520 คัน และ รถโดยสารปรับอากาศ 1,363 คัน รองรับผู้โดยสารเฉลี่ย 5–6 แสนคนต่อวัน พร้อมเดินหน้าจัดหารถ EV ให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งคาดว่าจะได้รับรถ เฟสแรก ประมาณเดือนกันยายน 2569 และพัฒนาระบบบริหารเดินรถด้วยข้อมูลเรียลไทม์เพื่อลดปัญหา รถขาดระยะเพิ่มความตรงต่อเวลา

นอกจากนี้ ขสมก. ได้นำเทคโนโลยีทันสมัยมาช่วยเพิ่มคุณภาพบริการ อาทิ ระบบติดตามรถ (GPS) เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน BMTA Bus ให้ประชาชนตรวจสอบเวลารถแบบเรียลไทม์ และระบบชำระค่าโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย

 พิธีครบรอบ 49 ปีของ ขสมก. จึงไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่ “ระบบรถเมล์ไทยยุคใหม่” ที่สะอาด ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในระยะยาวได้