สัตวแพทย์หญิงร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนหลัง ถูกหลอกลงทุน “เทรดหุ้นทิพย์” เสียหายกว่า 22 ล้านบาท ขณะที่ บริษัทตรวจสอบพบพนักงานตัวเองทำผิดจริง ผ่านไป 18 เดือนไม่มีความคืบหน้า ส่งหนังสือปฏิเสธเยียวยาพร้อมโยนความผิดให้ผู้เสียหาย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 กันยายน 2568 ที่หน้าศาลจังหวัดขอนแก่น สัตวแพทย์หญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายวลงกรณ์ โสดาศรี ทนายความ นำเอกสารหลังฐานเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนหลังได้รับความเสียหายจากการลงทุนซื้อขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพนักงานแนะนำการลงทุน (Investment Consultant หรือ IC) รายหนึ่งทำหน้าที่ดูแลพอร์ตการลงทุนให้ผู้เสียหาย แต่กลับถูกหลอกลวงและปกปิดข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับมูลค่าทรัพย์สิน พร้อมทั้งชักจูงให้ทำธุรกรรมในลักษณะที่ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ซื้อหุ้นต่อเนื่องรวมกว่า 100 ตัวในลักษณะซื้อสองทางทั้งหุ้นขึ้นและหุ้นลง จนเกิดความเสียหายรวมกว่า 22 ล้านบาท
สัตวแพทย์หญิงเอ กล่าวว่า ได้เปิดบัญชีลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2564 โดยบริษัทนี้ก่อตั้งถูกต้องตามกฏหมาย มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. รองรับ โดยได้ลงทุนสินทรัพย์ประเภทบล็อกเทรด คือ บริการการซื้อขาย Single Stock Futures (SSF) ในปริมาณมาก นอกกระดานซื้อขายปกติ (Over-the-Counter - OTC) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) เข้ามาเป็นคู่สัญญาตรงกับนักลงทุน เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องสภาพคล่องของ SSF ในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้สามารถซื้อขายได้ในปริมาณมากตามต้องการ และใช้เงินทุนน้อยกว่าการลงทุนหุ้นจริงด้วยระบบอัตราทด (Leverage) แต่ต้องแลกมากับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน จึงจำเป็นต้องมีพนักงาน IC ทำหน้าที่ดูแลพอร์ตการลงทุน ซึ่งนักลงทุนจะไม่สามารถซื้อขายได้เองจะต้องผ่านบริษัทเป็นผู้ซื้อขายตามสัญญาของบริษัท แต่ตลอดระยะเวลา 2 ปี 3 เดือนที่ผ่านมา กลับพบว่ามีการให้ข้อมูลบิดเบือน ไม่โปร่งใส ไม่ตรงตามความเป็นจริง และใช้ถ้อยคำแปลกๆชักจูง ไม่ว่าจะเป็น โฮลทิพย์ ขาดทุนทิพย์ แต่กำไรจริง ซึ่งเป็นศัพท์เกี่ยวกับนักเล่นหุ้นเพื่อสร้างความมั่นใจ ทั้งยังมีการดำเนินธุรกรรมที่ผิดปกติ ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ควรแนะนำแก่นักลงทุน ซึ่งเป็นวิธีไม่ถูกต้อง
"ด้วยการให้ลงทุนแบบคู่สเปซคือลงทุนทั้งขึ้นและลงโดยชี้นำว่าจะได้รับกำไร มีการให้โรลโอเวอร์ตลอดเวลา คือการย้ายจากสัญญาที่มีวันหมดอายุใกล้เข้ามา ไปยังสัญญาเดือนถัดไปล่วงหน้า อ้างว่าเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการลงทุน เพื่อเพิ่มค่าคอมมิชชั่นและเปอร์เซ็นต์ให้กับตัวพนักงานเองและบริษัท โดยทั้งหมดตนเองมาทราบรายละเอียดข้อเท็จจริงทีหลังจากการศึกษาด้วยตัวเอง พอเริ่มไม่ชอบมาพากลจึงร้องเรียนไปยังบริษัทก่อนเพราะยังไม่ทราบตัวเลขความเสียหาย ทางบริษัทจึงเปลี่ยนพนักงานคนใหม่เข้ามา ตนเองจึงได้มีการสอบถามรายละเอียดต่างๆทั้งหมด และจากการตรวจสอบพบว่ามีความไม่ถูกต้องหลายอย่าง โดยพบว่าพนักงาน IC ดังกล่าวได้รับค่าคอมมิชชั่นจากธุรกรรมประมาณ 2.9 ล้านบาท และบริษัทหลักทรัพย์ฯ ได้รับดอกเบี้ยจากการทำธุรกรรมอีกกว่า 10.8 ล้านบาท รวมความเสียหายเบื้องต้นกว่า 11 ล้านบาท และทางบริษัทบอกให้รอการสอบสวนอีก 3 เดือน ซึ่งตนเองรอไม่ได้จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2567 ก่อนที่จะมีผลการตรวจสอบของทางบริษัทแจ้งเบื้องต้นว่า ปฏิเสธการชดเชยเยียวยา โดยระบุว่า พนักงานรายดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพของการเป็นผู้แนะนำการลงทุน ตามลักษณะความผิดตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต.กำหนดไว้ และไม่สามารถสอบสวนต่อไปได้เนื่องจากพนักงานดังกล่าวลาออกไปก่อนที่จะมีการสอบสวนเสร็จ"
สัตวแพทย์หญิงเอ กล่าวต่ออีกว่า บริษัทฯแจ้งว่า พนักงานรายดังกล่าวทำข้อตกลงแบบส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับทางบริษัทเพราะเป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง บริษัทจึงไม่สามารถชดเชยเยียวยาให้ได้ตามข้อร้องเรียนเพราะไม่อยู่ในขอบเขตการรับผิดชอบของบริษัท และยังระบุว่าตนเองทำให้ทางบริษัทเสียโอกาสในการลงโทษพนักงานเพราะชิงลาออกไปก่อน ซึ่งในข้อความนี้เองตนเองยิ่งรู้สึกว่าเหมือนบริษัทปัดความรับผิดชอบโดยโยนความผิดให้ตนเอง ภายใต้สัญญาที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่ามูลค่าความเสียหายจริงๆนั้น มีมูลค่ารวมสูงถึงกว่า 22 ล้านบาท จึงตัดสินใจดำเนินคดีอาญากับทั้ง พนักงาน และบริษัทหลักทรัพย์ฯ ในข้อหาฉ้อโกงและความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
“หลังจากได้คำตอบจากทางบริษัทที่โทษความผิดเป็นของตนเอง จึงเข้าร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งได้ร้องเรียนควบคู่กันไปก่อนหน้านี้ แต่ล่าสุดทาง ก.ล.ต.แจ้งว่ายังไม่ถึงขั้นตอนการสอบสวนพนักงาน ic และ บริษัทฯ ยังเป็นขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน จนถึงตอนนี้ไม่มีความคืบหน้าทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยผ่านมานานถึง 18 เดือนแล้ว และกรณีของตนเองนั้นใช้เวลาการตรวจสอบนานที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะเท่าที่ตนเองสอบถามเจ้าหน้าที่ ก.ล.ต.บอกว่า ส่วนใหญ่แต่ละเคสจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี นานสุดคือ 15 เดือน เพราะหากเกิน 15 เดือน พนักงานของ ก.ล.ต.จะถูกประเมินว่าทำงานล่าช้า ตนเองจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง เลขาธิการ ก.ล.ต.เพื่อขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดติดตามผลการตรวจสอบ เนื่องจากจะต้องขึ้นศาลนัดสืบพยานในวันที่ 7 ต.ค.นี้ แต่ยังไม่มีหลักฐานอะไรไปแถลงต่อศาลเลยในส่วนคดีนั้นได้มีการดำเนินการ 2 ส่วน คือทางอาญาและแพ่ง โดยคดีอาญาแจ้งความดำเนินคดีกับทางพนักงานและบริษัท ในความผิดฐานฉ้อโกง และ ความผิดฐาน พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงฐานความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในส่วนของคดีแพ่งนั้น ได้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกรณีละเมิดจากตัวพนักงานและบริษัท ที่จะมีการสืบพยานในวันที่ 7-10 ต.ค.2568 โดยเบื้องต้นพยานหลักฐานที่เรามีนั้นก็พอจะสามารถเอาผิดได้ เพราะมีหนังสือชี้แจงจากทางบริษัทว่าพนักงานผิดจริง ซึ่งทางบริษัทก็อาจจะต้องมีการรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วย
สัตวแพทย์หญิงเอ กล่าวต่อว่า หลังจากร้องเรียนทางบริษัทฯไม่ได้มีการขอไกล่เกลี่ยใดๆ ตนเองในฐานะผู้ลงทุนรายย่อย ไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก จึงเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ โดยได้เลือกบริษัทนี้เพราะมีชื่อเสียงในอันดับต้นๆ จึงไว้วางใจและไม่ได้คิดว่าคำแนะนำจากพนักงานจะทำให้เกิดความเสียหายมากขนาดนี้ แต่หากเป็นการลงทุนผิดทางเราก็ยังพอเข้าใจเพราะเราตัดสินใจเอง แต่สิ่งที่พนักงานแนะนำตนเองนั้นเป็นข้อมูลที่ผิด บิดเบือน ข้อมูลต่างๆที่ได้รับผิดทั้งหมด กลายเป็นเราลงทุนเสียทิ้งแต่ไปเพิ่มค่าคอมมิชชั่นให้แก่ตัวพนักงานเฉยๆ จนได้รับรางวัลพนักงานดีเด่น เพราะตนเองลงทุนมากที่สุดของบริษัท ระยะเวลา 2 ปี 3 เดือนนั้น เสียเปล่า และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทรวมถึง ก.ล.ต. ที่ล่าช้า เพราะหากความยุติธรรมมาช้า ก็เหมือนไม่ได้รับความยุติธรรมแล้วสำหรับผู้เสียหาย สำหรับตนเองตอนนี้อยากได้รับความเป็นธรรมจากทาง ก.ล.ต.มากที่สุด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงและกำกับดูแล เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อย พร้อมทั้งระบุว่ากรณีนี้ควรเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชนว่า แม้การลงทุนจะทำผ่านบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังมีความเสี่ยง หากขาดความโปร่งใสและจริยธรรมจากผู้แนะนำการลงทุน เพราะความเชื่อใจไว้ใจในตัวบริษัทและพนักงานของเราเอง
#ภูมิภาค-48