วันที่ 24 ก.ย.68 ขณะที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา เข้าติดตามรถบรรทุกเทรลเลอร์ 18 ล้อ หัวลากยี่ห้อ HINO ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา และได้รื้อตรวจค้นพบยาบ้าจำนวนมากประมาณจากบรรจุราว 4 ล้านเม็ด 

ก่อนหน้าจากการเข้าจับกุมรถเทรลเลอร์คันนี้ตำรวจชุดเดียวกันได้จับกุมนายนายสมศักดิ์ อายุ 35 ปีชาว ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช นายเมษา อายุ 33 ปี  ชาว ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อีกรายคือนายสุชน อายุ 33 ปี ชาว ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา พร้อมยาบ้าจำนวน 6 แสนเม็ด ที่ถนนสาย 41 ใกล้เคียงแยกหนองดี ในเขตอำเภอทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช นายสมศักดิ์ ได้รับยาบ้ามาจากรถยนต์บรรทุกเทรลเลอร์คันดังกล่าว โดยหลังจากได้ส่งแล้วมีการขับต่อมุ่งหน้าไปยังอำเภอจุฬาภรณ์ โดยจากการสืบสวนพบว่ารถคันนี้บรรทุกยาบ้ามาหลายล้านเม็ด ตำรวจได้ติดตามไปจนพบจอดอยู่ริมถนนจึงเข้าทำการจับกุมคุมตัวผู้ขับขี่และโดยสารทั้งสองรายพดบยาบ้าอีก 4 ล้านเม็ด

พ.ต.อ. พิมณรัตน์ ธรรมาธิปติ์ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช ระบุว่า สายสืบของตำรวจตระเวนชายแดน แจ้งว่าการขนส่งลำเลียงยาบ้ามาจากพื้นที่ภาคกลาง มาส่งให้กลุ่มผู้ค้าในพื้นที่จังหวัดพัทลุง จึงได้ส่งกำลังเข้าติดตามย้อนไปตามเส้นทางสาย 41 จจนกระทั่งพบรถยนต์บรรทุกคันนี้ ที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานีก่อนสะกดรายตามมาจนเข้าสู่พื้นที่นครศรีธรรมราชมาส่งล็อตแรกจำนวน 6 แสนเม็ด จับกุมผู้รอรับได้ จากนั้นได้ติดตามไปจนจับกุมได้ทั้งหมด

โดยมีผู้ขับขี่เทรลเลอร์คือนายกฤตพัส อายุ 35 ปี ชาว ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง หลังจากคุมตัวมาสอบสวนยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าได้รับจ้างลักลอบขนยาเสพติด (ยาบ้า) มาจากพระนครศรีอยุธยา เพื่อมาส่งให้กับชายไม่ทราบชื่อที่จะมารอรับยาเสพติดล็อตนี้ในพื้นที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุงและตนได้ทำมาแล้วสองครั้ง ครั้งที่หนึ่งได้รับค่าจ้าง150,000 บาท และนี้เป็นครั้งที่สอง ซึ่งเป็นยาล็อตใหญ่ โดยค่าจ้างอยู่ที่ 200,000-300,000 บาท จนถูกจับกุมได้