เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ย.68 พ.ต.ต.พลาญชัย ชัยชนะ สารวัตรเวรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงจากบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 3 ต.ท่าราบ อ.เมืองราชบุรี แล้วมาเสียชีวิตที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมสายเก่า หมู่ 2 ต.ท่าราบ อ.เมือง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ รอง ผบก.จ.ราชบุรี และ พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลราชบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลราชบุรี
ในที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อต่อมาคือนายสุรพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี มีบาดแผลที่บริเวณหน้าขาข้างขวาตัดเส้นเลือดใหญ่ 1 นัด ส้นเท้าขวา หน้าแข้งขวา ส่วนที่ศรีษะมีบาดแผลแตก เจ้าหน้าที่ได้ทำการส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลราชบุรี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งอาละวาดถือมีดอยู่ในซอย 3 หน้าบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 3 ต.ท่าราบ ชาวบ้านเกรงว่าจะไปทำอันตรายกับคนอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.ท่าราบ จึงเข้าไปตรวจสอบเพื่อระงับเหตุแต่เนื่องจากไปพบผู้ตายถืออาวุธมีดอยู่ จึงได้ขอกำลังเสริม โดยมี ร.ต.อ.วรศักดิ์ คลองงาม รองสวป.สภ.เมืองพร้อมกำลังเข้าไปช่วยระงับเหตุ
ซึ่งเมื่อผู้ตายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจึงได้พยายามจะใช้มีดไล่ฟันร.ต.อ.วรศักดิ์ คลองงาม ซึ่งกำลังถอยหลังหนีแต่เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุนั้นไหล่ถนนสูงกว่า 40 เซนติเมตร ทำให้ ร.ต.อ.วรศักดิ์ คลองงาม ล้มตกลงไปทำให้ได้รับาดเจ็บที่บริเวณสีข้างด้านขวา ผู้ตายจึงจะเข้าไปใช้อาวุธมีดทำร้ายทำให้ ร.ต.อ.วรศักดิ์ คลองงาม ตัดสินใจใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสวนไปที่บริเวณขาของผู้ตาย ทำให้ล้มลงหัวกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งในระหว่างที่ออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งขอรถพยาบาลมาเปลี่ยนถ่ายผู้บาดเจ็บเพราะในรถพยาบาลนั้นมีอุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีเลือดไหลออกจากที่บริเวณต้นขาจำนวนมาก แต่เมื่อมาถึงริมถนนเพชรเกษมสายเก่าซึ่งมีรถพยาบาลรออยู่ก็ได้นำผู้บาดเจ็บออกมาเพื่อเปลี่ยนถ่ายพบว่าผู้บาดเจ็บนั้นนิ่งไปเจ้าหน้าที่จึงได้การปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่สุดท้ายผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตบริเวณถนน
โดยมีนางสาวธนวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี บุตรสาวของผู้ตายได้เดินทางมาศพของพ่อด้วยอาการเศร้าโศกพร้อมกับบอกว่า พ่อไม่เคยทำร้ายใคร แม้ว่าพ่อจะป่วยเป็นจิตเวชและกินยาอยู่ ซึ่งช่วงเกิดเหตุนั้นนั่งดายหญ้าที่หน้าบ้านซึ่งก็จะมีมีดที่ใช้ดายหญ้าอยู่ แต่ไม่รู้ว่าใครแจ้งตำรวจว่าพ่อคลุ้มคลั่งอาละวาดจนตำรวจต้องเข้ามาและยิงพ่อของตนจนเสียชีวิต ซึ่งตนนั้นจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะครั้งนี้ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบที่บ้านที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 6 ปลอกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และพบมีดเปื้อนเลือดตกอยู่ด้วย
โดยเบื้องต้นทาง พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ รอง ผบก.จ.ราชบุรี บอกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการเข้าไประงับเหตุเพราะที่ผ่านมาบ้านหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุคุ้มแล้วอาละวาดมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ชายคุ้มคลั่งมีอาวุธมีดจะเข้ามาทำร้าย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันตัว ซึ่งก็เป็นไปตามยุทธวีธีคือการยิงสกัดที่ขา แต่สาเหตุของการเสียชีวิตนั้นต้องให้ทางสถาบันนิติเวชได้ทำการตรวจสอบก่อนว่าเสียชีวิตเพราะเสียเลือดมากหรือมาจากสาเหตุอื่น และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย