ชาวบ้านตามแนวชายแดน อ.บ้านกรวด  จ.บุรีรัมย์  ยังไม่อพยพออกจากพื้นที่ หลังทหารเขมรยิงปืนเล็กเข้ามายังแนวลวดหนามฝ่ายไทยที่ จ.ศรีสะเกษ  แต่หลายครัวเรือนได้เก็บเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวเตรียมไว้  รอประกาศจากภาครัฐ  ขณะเหยื่อที่เคยโดนสะเก็ดกระสุนปืนใหญ่เขมรบาดเจ็บ เล่านาทีเฉียดตาย เรียกร้องสร้างกำแพง  ผญบ.เร่งประชาสัมพันธ์เส้นทางและอพยพเพื่อความปลอดภัย และจากกรณีที่กองทัพภาค 2  ได้รับรายงานจากในพื้นที่ว่ามีเหตุการณ์ทหารกัมพูชายิงปืนเล็ก 3-5 นัด เข้ามายังแนวลวดหนามป้องกันตนเองของฝ่ายไทย ในพื้นที่ ต.เสาธงชัย  อ.กันทรลักษณ์  จ.ศระสะเกษ  เมื่อวานนี้  23 ก.ย.68    


        
วันนี้ 24 ก.ย.68 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศชาวบ้าน  ในหมู่บ้านตามแนวชายแดน อำเภอบ้านกรวด  จ.บุรีรัมย์   พบว่ายังไม่มีการอพยพออกจากพื้นที่  มีเพียงการเก็บเสื้อผ้า  เอกสารสำคัญ และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋าเตรียมไว้เท่านั้น   เพื่อรอประกาศจากทางภาครัฐจึงจะมีการอพยพออกจากพื้นที่  ไปยังศูนย์พักพิง หรือสถานที่ที่ทางราชการเตรียมไว้เพื่อความปลอดภัย     แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เริ่มกังวลจะเกิดการสู้รบขึ้นอีกรอบ     ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านก็ได้ประกาศเสียงตามสาย ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับทราบถึงเส้นทาง และแผนการอพยพ   หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น   จะได้อพยพออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย    เพราะเหตุการณ์ครั้งก่อนที่ไม่ได้ตั้งตัวทำให้การอพยพเกิดความชุลมุนวุ่นวาย  มีรถบางคันเกิดอุบัติเหตุด้วย    จากประสบการณ์ครั้งนี้ทางอำเภอจึงได้มีการซักซ้อมแผนและเส้นทางไว้  

นายศักดิ์รินทร์   ฮึมประโคน   ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง  ในอำเภอบ้านกรวด   บอกว่า   ขณะนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์เส้นทางและแผนการอพยพ   ตามที่ทางอำเภอได้ประชุมซักซ้อม ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับทราบแล้ว    หากเกิดเหตุฉุนเฉินหรือมีประกาศจากทางภาครัฐก็จะได้อพยพออกจากพื้นที่  ไปยังศูนย์พักพิง หรือสถานที่ที่ทางราชการเตรียมไว้ได้อย่างปลอดภัย   ขณะเดียวกันก็ประชาสัมพันธ์ไม่ให้ตื่นตระหนกจนเกินไป  ให้รอฟังข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น    
        
ขณะที่ นายบุญนำ  ด้วงประโคน  อายุ 53 ปี   เหยื่อที่เคยโดนสะเกิดกระสุนปืนใหญ่ที่ฝั่งเขมรยิงใส่หมู่บ้าน ช่วงที่มีการสู้รบกัน จนได้รับบาดเจ็บที่ขา และแขน  ต้องรักษาตัวที่ รพ.ถึง 3 วัน   ก็ได้เล่า  เหตุการณ์เฉียดตายให้ฟัง   พร้อมบอกว่าทุกวันนี้ได้ยินเสียงฟ้าร้องก็ยังรู้สึกตกใจ   และหวาดผวาอยู่    ซึ่งครั้งก่อนไม่มีใครได้ตั้งตัวเลยว่าจะมีการสู้รบกันขึ้นทำให้หนีไม่ทัน    จากสถานการณ์ที่เขมรยั่วยุฝ่ายไทยและเจ้าหน้าที่ไม่หยุด   ส่วนตัวก็อยากให้ทำรั้วหรือสร้างกำแพงต่างคนต่างอยู่ไปเลย   จะได้ไม่ต้องสู้รบกันและมีใครบาดเจ็บล้มตายอีก   
          
นายบุญนำ  ยังบอกอีกว่า  ส่วนกรณีที่ตนเองโดนกระสุนปืนใหญ่บาดเจ็บ  เบื้องต้นก็ได้เงินจากสำนักงานยุติธรรม 14,000 บาท  ภาคเอกชน 10,000 บาท  ปภ. 4,000 บาท  กาชาด 3,000 บาท   สมาชิกวุฒิสภา 2,500 บาท   แต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยากรณีบาดเจ็บจากรัฐบาลที่ระบุว่าจะเยียวยา 5 หมื่นบาทเลย