ตลาดซีรีส์สั้นของจีนกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2567 มีมูลค่าทะลุ 5 หมื่นล้านหยวน หรือราว 2.25 แสนล้านบาท ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงแดนมังกรเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอย่างจริงจัง จุดเด่นของซีรีส์สั้นจีนที่มีระยะเวลาสั้น ยืดหยุ่นต่อการรับชม และการผลิตที่รวดเร็ว ได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ของความร่วมมือด้านภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ในระดับภูมิภาค
หลิวเชา ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ ไท่ซินเฟิง มีเดีย บริษัทจีนที่ดำเนินธุรกิจในไทยมานานหลายปี เปิดเผยว่า กระแสซีรีส์สั้นจากจีนได้รับความนิยมในไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในแง่การผลิตและการเผยแพร่คอนเทนต์ โดยบริษัทจีนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างโมเดลความร่วมมือใหม่ที่เชื่อมโยงอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนกับไทยอย่างแน่นแฟ้น
ขณะเดียวกัน กว่างซีจ้วง เขตปกครองตนเองทางตอนใต้ของจีน กำลังกลายเป็นฐานการผลิตซีรีส์สั้นเพื่อเจาะตลาดอาเซียน เนื่องจากมีศักยภาพเชื่อมโยงทั้งทางบกและทางทะเล โดยตลาดสำคัญอย่างไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ต่างมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน ประกอบกับการใช้สมาร์ทโฟนที่แพร่หลาย ทำให้ความต้องการรับชมซีรีส์สั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
การเติบโตของซีรีส์สั้นจีนยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ในต่างประเทศ โดยมีการนำรูปแบบการเล่าเรื่องและจังหวะที่กระชับไปประยุกต์ใช้ พร้อมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าไปด้วย ส่งผลให้ความร่วมมือด้านภาพยนตร์และละครโทรทัศน์จีน-ไทยก้าวข้ามเพียงการผลิตคอนเทนต์ สู่การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น
เวทีสำคัญที่สะท้อนความเคลื่อนไหวนี้คือ งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ครั้งที่ 22 จัดขึ้นที่เมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี ระหว่างวันที่ 17-21 กันยายนที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชี้ว่า เมื่อเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาผสานกับการผลิตซีรีส์สั้น ทำให้วงจรการผลิตสั้นลง ต้นทุนต่ำลง และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างก้าวกระโดด
ในมิติของเทคโนโลยี หลี่เหมิง ผู้ก่อตั้งบริษัท เทียนเซี่ยซิ่ว (IMS Group) แพลตฟอร์มอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของจีน กล่าวเสริมว่า AI และเครื่องมือดิจิทัลช่วยสนับสนุนกระบวนการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่การเขียนบท การถ่ายทำ การตัดต่อ ไปจนถึงการแปลภาษา เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงทำให้กระบวนการผลิตเร็วและมีคุณภาพขึ้น แต่ยังช่วยให้คอนเทนต์ขยายสู่ตลาดต่างประเทศได้กว้างขึ้น
สำหรับเศรษฐกิจไทย การเข้ามาของซีรีส์สั้นจีนถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อดิจิทัล ทั้งในด้านการผลิตร่วม (Co-Production) การลงทุนในสตูดิโอถ่ายทำ การจ้างงานทีมโปรดักชันในประเทศ ตลอดจนการกระตุ้นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการตลาดออนไลน์ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดร่วมระหว่างจีน-ไทยอาจแตะหลายหมื่นล้านบาทภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
ในอีกมิติหนึ่ง ความร่วมมือด้านซีรีส์สั้นยังช่วยเสริม Soft Power ของไทย เพราะการถ่ายทำและการเผยแพร่คอนเทนต์ในไทยจะเปิดโอกาสให้วัฒนธรรมไทย เช่น ภาษา อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว ได้ปรากฏสู่สายตาผู้ชมจีนและผู้ชมในภูมิภาค การเป็นศูนย์กลางการผลิตและเผยแพร่คอนเทนต์ร่วมกับจีนจึงไม่เพียงสร้างรายได้ แต่ยังเสริมภาพลักษณ์ไทยในฐานะผู้นำด้านวัฒนธรรมร่วมสมัยในอาเซียน
#ซีรีส์สั้นจีน #ตลาดบันเทิงไทย #SoftPowerไทย #คอนเทนต์จีนไทย #AIกับซีรีส์สั้น #ตลาดอาเซียน #อุตสาหกรรมบันเทิง #ตลาดบันเทิงจีน #หนังจีน #คอนเทนต์จีนไทย #ความร่วมมือจีนไทย