สุรินทร์พายุฝนกระหน่ำหลายพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง พัดผักตบชวาลอยเกลื่อนไหลตามน้ำ ขณะที่ชาวบ้านได้โอกาสดักจับปลานำไปขายสร้างรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว
วันที่ 22 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวลงตรวจสอบพื้นที่ตามอำเภอต่างๆหลังจากที่มีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวันต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังเจิ่งนองและบางพื้นที่มีผักตบชวาไหลลงมากั้นทางน้ำ ขณะที่ในบางพื้นที่ชาวบ้านได้นำตาข่ายมาดักปลานำปลาที่ได้ขึ้นมาขาย โดยที่ไม่ต้องนำปลาเข้าตลาดเพราะมีชาวบ้านที่พบเห็นเข้ามารับซื้อถึงที่
โดยที่บริเวณเขตพื้นที่ชลประทานบ้านเกาะแก้ว ม.11 ตำบลเกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ได้มีระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ฝนทิ้งช่วงมาได้ประมาณ 1 เดือน ทำให้นาข้าวบางพื้นที่ขาดน้ำหลังจากที่ฝนตกลงมาติดต่อกันหลายวันปริมาณน้้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีน้ำไหลเข้านาข้าวของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลเกาะแก้วเทศบาลตำบลหมื่นศรีและตำบลสำโรงทาบ ต่างดีอกดีใจเพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าข้าวหอมมะลิ 105 ก็จะออกรวงสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวใหม่
ขณะที่พื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก ซึ่งมีพื้นจำนวน 7 พันกว่าไร่ มีเนื้อที่ที่รอยต่อ 3 ตำบล มีตำบลกุดหวาย ตำบลยาง และตำบลระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้มีผักตบชวาที่ลอยมากับน้ำเป็นจำนวนมากหลายพันตันลอยมาติดกับที่กั้นน้ำทำให้น้ำมีสีขุ่นและเป็นเส้นทางที่พี่น้องประชาชนที่ต่างสัญจรไปมาต้องหยุดชะงักลงเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากน้ำ ซึ่งทุกๆปีที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุมีคนขับรถจมน้ำทุกปีและมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นซึ่งปีนี้ทางอบต.แต่ละพื้นที่ก็ได้เฝ้าระวังและนำป้ายมาปิดประกาศเตือนพี่น้องประชาชนให้เฝ้าระวังในการเดินทางสัญจรไปมา
นายแดง อายุ 60 ปี ชาวบ้านระแงง ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ หลังจากที่ฝนตกมาติดต่อกันก็ได้นำตาข่ายมาดักจับปลาได้วันละหลายสิบกิโลกรัม โดยปลาตัวที่เหลือจากการจะนำไปประกอบอาหารก็นำมาแบ่งขายให้กับพี่น้องที่เดินทางสัญจรไปมาโดยปลาตัวเล็กจะมีชาวบ้านซื้อไปให้เป็ดหรือไม่ก็นำไปทำปลาจ่อมกิโลละ 20 บาทส่วนปลาตัวใหญ่ก็จะคัดนำขายให้กับผู้ที่เดินทางสัญจรไปมากิโลละ 60 บาท ตัวใหญ่ 80 บาท หรือแล้วแต่ขนาดของปลา