บทความพิเศษ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรัตต์ อินทสระ

อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต

สาขาวิชาการจัดการธุรกิจบันเทิง คณะวิทยาการจัดการ

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลข่าวสารมีปริมาณมหาศาลและการแพร่กระจายข้อมูลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่องค์กรต่าง ๆ ต้องให้ความสำคัญ  อินโฟกราฟิก (Infographic) เป็นการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบภาพและตัวอักษรที่มีการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีบทบาทสำคัญ ในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย น่าสนใจ และจดจำได้

อินโฟกราฟิกไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการนำเสนอข้อมูลเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็น “สื่อสังคม”ที่มีพลังในการเชื่อมโยงผู้คน สร้างการมีส่วนร่วม และขยายการเข้าถึงข้อมูลไปยังกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ด้วยคุณสมบัติที่สามารถแชร์ กระจาย ในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว อินโฟกราฟิกจึงได้รับการยอมรับและนำมาใช้อย่างแพร่หลายในทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา

โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ ที่เผชิญกับความท้าทายในการสื่อสาร ด้านข้อมูลข่าวสารและการบริการต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจอย่างชัดเจนและครอบคลุม ข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ มักจะมีความซับซ้อน เช่น นโยบายสาธารณะ ขั้นตอนการขอรับบริการ สถิติทางเศรษฐกิจและสังคม ฯลฯ   การนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ในรูปแบบข้อความธรรมดา อาจทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย ไม่เข้าใจ หรือไม่ให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์วิกฤต เช่น การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ภัยธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายสำคัญ ที่จำเป็นต้องสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบอย่างรวดเร็วและถูกต้อง

องค์กรภาคเอกชนใช้อินโฟกราฟิก เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค ที่มีทางเลือกในการรับสารหลากหลายช่องทาง ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการรับสื่อที่เปลี่ยนแปลงไป การตลาดแบบดั้งเดิมที่อาศัยข้อความหรือการโฆษณาทั่วไป อาจไม่เพียงพอต่อการสร้างความประทับใจและการจดจำตราสินค้า อินโฟกราฟิกช่วยให้ภาคเอกชน สามารถสื่อสารข้อมูลผลิตภัณฑ์ บริการ หรือแนวคิดทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเปรียบเทียบคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ การอธิบายกระบวนการผลิต การนำเสนอผลสำรวจความพึงพอใจ หรือการสร้างเนื้อหาการตลาดที่สร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภค

ส่วนสถาบันการศึกษา ต้องเผชิญกับความท้าทาย ในการถ่ายทอดความรู้ที่ซับซ้อนมากขึ้น  การสอนแบบดั้งเดิมที่อาศัยตำราและการบรรยายเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการดึงดูดความสนใจของผู้เรียนในยุคดิจิทัล อินโฟกราฟิกจึงมีความสำคัญต่อการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อลดเวลาอธิบาย และเพิ่มความเข้าใจในชั้นเรียน

จะเห็นได้ว่าอินโฟกราฟิก เป็นเครื่องมือที่สร้างผลกระทบต่อการสื่อสารในยุคดิจิทัล จากเหตุผลที่มนุษย์ยุคปัจจุบัน มี “วิถีชีวิตแบบเคลื่อนที่” (Mobile Lifestyle) สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งทำได้ทุกที่ทุกเวลา พฤติกรรมการบริโภคสื่อ เปลี่ยนจากการนั่งอ่านหนังสือ หรือดูทีวีอย่างตั้งใจ เป็นการรับข้อมูลระหว่างเดินทาง ประกอบกับมนุษย์มีระยะเวลาของความสนใจในเรื่องต่าง ๆ ที่สั้นลง จึงต้องการข้อมูลที่รวดเร็ว ชัดเจน และสามารถเข้าใจได้ทันที ข้อมูลในปัจจุบันจึงต้องมีรูปแบบที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ส่งต่อและเผยแพร่ 

การส่งต่อหรือเผยแพร่ข้อมูลจากอินโฟกราฟิก ให้ความรู้สึกว่าผู้ส่งต่อเป็นคนที่ทันสมัย สอดคล้องกับแรงจูงใจทางจิตวิทยา ในการสร้างภาพลักษณ์ตนเองในสื่อสังคม (Self-presentation) นอกจากนี้ การตอบสนองในรูปแบบของ “ไลค์” “คอมเมนต์” หรือ “แชร์ต่อ” กระตุ้นการหลั่งสารเคมีความสุขในสมอง เสริมแรงเชิงบวกต่อพฤติกรรมการส่งต่อในแต่ละครั้ง ทำให้เกิดวัฒนธรรมการมีส่วนร่วม (Sharing Culture) สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูล แม้กับผู้ที่มีระดับการศึกษาต่างกัน เพราะการใช้ภาพและสัญลักษณ์ จะช่วยลดอุปสรรคทางการสื่อสาร รวมทั้งข้อจำกัดในการอ่าน

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การสื่อสาร โดยการลงทุนในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพทาง “การออกแบบ” ตัวอย่างอินโฟกราฟิกที่ออกแบบในฐานะการเป็นสื่อสังคมของ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ครอบคุลมหลักการออกแบบ โดยสังเขปดังนี้

มีโครงสร้างชัดเจน จัดวางเนื้อหาเป็นสัดส่วนแบ่งพื้นที่อย่างสมดุล มีการไล่ระดับข้อมูล จากหัวเรื่องใหญ่สู่รายละเอียด การใช้สี - ใช้โทนสีน้ำเงินเป็นหลักสร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นทางการ เหมาะกับธรรมชาติของข้อมูลผลสำรวจ กราฟิกหลากหลาย - ผสมผสานกราฟเส้น กราฟวงกลม และแท่งสถิติ ช่วยให้การนำเสนอข้อมูลไม่น่าเบื่อ ภาพประกอบ - ใช้ภาพบุคคลสร้าง human touch และความเข้าใจง่าย ตัวเลขโดดเด่น – เน้นสถิติสำคัญด้วยการใช้ฟอนต์ขนาดใหญ่และสีที่โดดเด่น ข้อมูลครบถ้วน - มี QR Code, แหล่งอ้างอิง และสถาบันที่จัดทำผลสำรวจ เพิ่มความน่าเชื่อถือ