จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โพสต์ข้อความระบุว่า...

‘สรวงศ์’ เผย ‘เพื่อไทย’ ไม่เปลี่ยนใจ! ไม่ร่วมวิปฝ่ายค้าน หลัง ‘ปกรณ์วุฒิ’ บอกยังยินดีร่วมงาน เหตุ เป็นมติพรรค ยัน ไม่ได้งอแง แต่เรามีฐานเสียงของพี่น้องประชาชนและ สส.ต้องรับฟัง น้อมรับทุกความคิดเห็น

กรณีเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.2568) นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เขต 3 เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยมติพรรคเพื่อไทย ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมเป็น ‘วิปฝ่ายค้าน’ ร่วมกับ ‘พรรคประชาชน’ นั้น จนนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธาน สส.พรรคประชาชน และประธานวิปฝ่ายค้าน ออกมาระบุว่ายังพร้อมเปิดรับหากเปลี่ยนใจ

ล่าสุดเช้านี้ (21 ก.ย.2568) นายสรวงศ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานด้านวัฒนธรรมของจังหวัด ที่วัดตาพระยา จ.สระแก้ว โดยกล่าวถึงการที่ประธานวิปฝ่ายค้าน ออกมาเคลื่อนไหวว่า “ยังพร้อมเปิดรับ หากเปลี่ยนใจ” ว่า จริงๆแล้วไม่ได้มีอะไร เราพูดคุยกันสภาฯ ท่านปกรณ์วุฒิก็เสนอมาเองว่า โควตาพรรคเพื่อไทย 9 ที่ เราก็ได้นำข้อมูลเข้าที่ประชุมพรรค ซึ่งไม่ใช่ความเห็นของตนเองคนเดียว แต่เป็นมติของพรรคเพื่อไทย ตนจึงต้องออกมาสื่อสารให้กับประชาชนได้รับทราบ

เมื่อถามอีกว่า สรุปได้ว่า ไม่เปลี่ยนใจแล้วใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ ย้ำว่า “มันไม่มีอันต้องเปลี่ยนใจครับ” เพราะเป็นมติพรรค ที่จะไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้าน แต่เราทำงานในฐานะฝ่ายค้าน ส่วนการทำงาน การพูดคุยกับพรรคประชาชนในสภามีการพูดคุยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้เป็นรูปแบบการเข้าไปร่วมเป็นวิปฝ่ายค้าน

ส่วนกรณีที่นายปกรณ์วุฒิ ชี้ถึงผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยว่า ให้วางอัตตาลงสักนิด การทำงานในสภาในเวลาที่เหลือจะเป็นประโยชน์กว่านี้ นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า อาจเป็นความเห็นของนายปกรณ์วุฒิ แต่ก็เคารพความเห็นของทุกท่าน แต่ขอบอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความเห็นของผู้ใหญ่ แต่เป็นความเห็นของสมาชิกพรรค สส.ในพรรค ก็ต้องยืนตามมติ

ส่วนแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยระบุทำนองว่าไม่ไว้วางใจการทำงานฝ่ายค้านของพรรคประชาชน นายสรวงศ์ กล่าวว่า จุดยืนของพวกเราในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรามีร่วมกันมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะการโหวตนายกรัฐมนตรีต่างๆ ที่ผ่านมา แต่เมื่อมันไม่สำเร็จ ในฐานะพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจและมีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับกันในทางตรงข้ามด้วยซ้ำ สิ่งที่พรรคประชาชนไปยกมือให้กับพรรคการเมืองที่ทุกคนก็รู้ว่า มีการขัดขวางกาาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด

ส่วนที่มีกระแสทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเรื่องนี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตนได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์เช่นกัน บางคนก็ไปกันใหญ่เลย ก่อนจะกล่าวว่า การทำงานแน่นอนอยู่แล้วว่า เราเป็นฝ่ายค้าน ต้องทำงานอย่างเข้มข้นในการตรวจสอบ ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ “แต่การจะเข้าไปร่วมเป็นวิป มันก็เหมือนกับการที่เราเข้าไปอยู่ในกระบวนการที่ไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นเราขอแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ว่าเราขอเป็นฝ่ายค้านและทำหน้าที่ฝ่ายขายอย่างเต็มรูปแบบ”

ส่วนกระแสบางส่วนที่แซวว่า “ฝ่ายแค้น” หรือ “งอแง” นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้โซเชี่ยลเปิดกว้างเรื่องการแสดงความคิดเห็น คนที่ต่อว่า คนที่ไม่ชอบ ก็สามารถจะพูดได้เต็มที่ ตนเองก็โดนเหมือนกัน แต่ยืนยันว่าไม่ได้งอแงอะไร เพราะไม่รู้จะไปงอแงเรื่องอะไร อีกทั้งเรามีฐานเสียงของพี่น้องประชาชนที่ และ สส.ต้องรับฟัง

นายสรวงศ์ ยังฝากให้จับตาการทำงานของพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้ ที่จะมีการอภิปรายเรื่องนโยบายรัฐบาล รวมถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน มาคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า...

ผมเคารพการตัดสินใจในชั้นต้นของพรรคเพื่อไทย และเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องแสดงออกเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ ผมไม่เคยมีความคิดที่จะโกรธแค้น หรือผูกสมัครความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยเลยครับ

ในทางกลับกัน ในฐานะที่ต้องทำงานฝ่ายค้านร่วมกัน พรรคประชาชนยังคงรักษาสัดส่วนกลไกต่าง ๆ ของสภาผู้แทนราษฎรไว้ให้พรรคเพื่อไทยอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกระทู้ถามสดรัฐมนตรี หรือการจัดสรรเวลาในการอภิปราย

แม้วันนี้ พรรคเพื่อไทยจะเลือกที่จะเอามือไพ่หลัง ยังไม่พร้อมที่จะจับมือทำงานร่วมกันกับเราในฐานะวิปฝ่ายค้าน แต่ขอให้มั่นใจได้ว่า มือของพรรคประชาชนยังคงยื่นออกไปเสมอ และพร้อมที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และมืออาชีพครับ