หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (รปม.) คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดโครงการศึกษาดูงานนวัตกรรมการจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อความยั่งยืน โดยเดินทางไปยังพื้นที่สำคัญ 3 จังหวัด ได้แก่ โครงการชลประทานป่าสักใต้หรือเขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา และโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่ วัดชัยมงคล อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี

การศึกษาดูงานครั้งนี้นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ คณบดี และอาจารย์สมศักดิ์ วานิชยาภรณ์ รองคณบดี พร้อมด้วยนักศึกษาในหลักสูตรจำนวน 26 คน เข้าร่วมกิจกรรมตลอดการเดินทาง  โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะได้ศึกษาดูงานที่เขื่อนพระราม 6 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำที่มีความสำคัญต่อระบบเกษตรกรรมและการบริหารจัดการน้ำของลุ่มน้ำป่าสักและเจ้าพระยา เขื่อนพระราม 6 มีประวัติความเป็นมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 5 และในหลวงรัชกาลที่ 6 เพื่อสร้างระบบชลประทานรองรับการเพาะปลูกและควบคุมการระบายน้ำ ปัจจุบันยังต้องบูรณาการทำงานร่วมกับเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อสร้างความสมดุลของการจัดการน้ำทั้งในฤดูแล้งและฤดูน้ำหลาก

ต่อมา คณะได้เดินทางไปยังโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา ศึกษาระบบโรงไฟฟ้าสูบกลับพลังน้ำที่อ่างเก็บน้ำเขายายเที่ยง ซึ่งสามารถสูบน้ำกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นไปเก็บไว้ แล้วปล่อยลงมาเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวลต์เข้าสู่ระบบกำลังไฟฟ้าของประเทศ รวมทั้งเป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมด้วยกังหันลมจำนวน 14 ต้น สะท้อนถึงการผสมผสานพลังงานทดแทนเพื่อความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืนในอนาคต

สำหรับจังหวัดสระบุรี คณะได้ศึกษาดูงานที่โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 โครงการนี้ถือเป็นต้นแบบของการทำเกษตรทฤษฎีใหม่แห่งแรกของประเทศ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 โดยมีการขุดอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาวเพื่อส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรประมาณ 3,000 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตรผสมผสานที่สามารถสร้างรายได้ สร้างภูมิคุ้มกัน และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรรายย่อยได้อย่างเป็นรูปธรรม

การศึกษาดูงานครั้งนี้นอกจากจะทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้แนวทางการจัดการน้ำทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคมแล้ว ยังเป็นการบูรณาการองค์ความรู้กับภาคปฏิบัติ ผ่านการเรียนรู้เชิงปัญหา (Problem-based Learning) เพื่อทำความเข้าใจและหาทางออกในการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนในอนาคต ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เสริมสร้างประสบการณ์ตรงและจุดประกายแนวคิดใหม่ให้กับนักศึกษาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตของ DPU อย่างมีคุณค่า