ตำรวจภาค 2 ย้ำ พื้นที่กฎอัยการศึกชายแดนสระแก้ว ทหารมีอำนาจสูงสุด พร้อมแจง 7 ข้อปฏิบัติ

วันที่ 21 ก.ย.68 รายงานระบุว่า ในเขตพื้นที่กฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนและตำรวจ ในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปราม และการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่พลเรือนและตำรวจต้องปฏิบัติตามคำสั่งของฝ่ายทหาร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมีอำนาจในการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อาญา) ตามปกติ

สำหรับคดีอาญาที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในอำนาจของศาลพลเรือน ยกเว้นความผิดที่ทหารประกาศให้เป็นอำนาจของศาลทหาร เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และคุ้มครองสิทธิของประชาชนสูงสุด เพจตำรวจภูธรภาค 2 ยังได้สรุปหลักปฏิบัติ 7 ข้อ เพื่อความเข้าใจในการบังคับใช้กฎหมาย ดังนี้ 1.พื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก: ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ, ตาพระยา, โคกสูง, วังน้ำเย็น, วัฒนานคร และวังสมบูรณ์ 2.อำนาจพิเศษ: เป็นของฝ่ายทหารตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ เช่น การตรวจค้น การยึด และการทำลายสถานที่ โดยตำรวจยังคงมีอำนาจตาม ป.วิ.อาญา 3.ความสัมพันธ์ทางอำนาจ: ในพื้นที่กฎอัยการศึก ทหารมีอำนาจเหนือตำรวจในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การปราบปราม และการรักษาความสงบ ซึ่งตำรวจต้องปฏิบัติตามความต้องการของทหาร 

4.อำนาจศาล: ศาลพลเรือนยังคงมีอำนาจพิจารณาคดีได้ตามปกติ ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด 5.การจับกุมในพื้นที่พิพาท: การใช้อำนาจจับกุม ค้น ควบคุม ของตำรวจตาม ป.วิ.อาญา สามารถทำได้เฉพาะในราชอาณาจักรเท่านั้น หากเป็นพื้นที่พิพาทกับกัมพูชา ตำรวจควรงดเว้นการใช้อำนาจดังกล่าว 6.การสอบสวน: พนักงานสอบสวนยังมีอำนาจสอบสวนคดีอาญาตาม ป.วิ.อาญา ตามปกติ และ 7.การชุมนุมสาธารณะ: พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ไม่ใช้บังคับในระหว่างที่มีการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งในกรณีนี้จะใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกแทน ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายทหาร