หนุ่มเมืองระยอง ขับรถข้ามจังหวัด โทรสั่งลาญาติ "ผมจะไปตาย" ก่อนก่อเหตุรมควันฆ่าตัวตาย
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.68 เวลา 22.30 น. ร.ต.อ.กิตติพจน์ เอี่ยมประไพ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งว่าพบบุคคลก่อเหตุรมควันเสียชีวิตภายในรถ เหตุเกิดที่สถานีปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนสาย 36 (พัทยา-ระยอง) ฝั่งขาเข้าพัทยา ม.2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา รีบไปทำการตรวจสอบ
เมื่อไปถึงสถานีปั๊มน้ำมันดังกล่าว ตรวจสอบบริเวณที่จอดรถหน้าห้องน้ำ พบรถเอสยูวี ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน ระยอง อยู่ในสภาพสตาร์ทเครื่องยนต์ และล็อคประตูทุกด้าน พอส่องกระจกมองผ่านเข้าไปในรถ มีบุคคลนอนอยู่ที่บริเวณเบาะด้าน ตำรวจจึงตัดสินใจงัดประตูรถ ทำการตรวจสอบปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว แถมภายในรถมีกลิ่นควันไหม้คละคลุ้ง
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตในเบื้องต้น ทราบชื่อต่อมา คือ นายกำธร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดระยอง สภาพสวมเสื้อยืดสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว นอกจากนี้ยังพบเตาอั้งโล่ วางอยู่ที่บริเวณท้ายด้านหลังรถ และ มีการจุดเผาถ่านจนมอด ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามของพนักงาน ปั๊มน้ำมัน เห็นรถคันดังกล่าว ขับเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าห้องน้ำ ตั้งแต่ช่วงเย็น เวลาประมาณ 16.30 น. แต่ไม่มีใครเอะใจอะไร คิดว่าเป็นรถลูกค้าทั่วไป จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 5 ชั่วโมง เป็นช่วงเปลี่ยนกะพนักงาน เห็นรถคันดังกล่าวจอดนานผิดปกติ แถมยังสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ตลอดเวลา จึงชะโงกหน้าส่องผ่านกระจก เห็นคนนอนผิดปกติอยู่ที่บริเวณเบาะด้านหลัง จึงรีบโทรรายงานเจ้าของปั๊มน้ำมัน และ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบดังกล่าว
ขณะเดียวกันตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน จะเห็นรถของผู้ตายขับเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าห้องน้ำ ช่วงเวลา 16.28 น. โดยผู้ตายไม่มีการลงจากรถ ก่อนจะก่อเหตุจุดไฟเผาถ่านในเตาอั้งโล่ แล้วรมควันตัวเองเสียชีวิตภายในรถ นอกจากนี้ตำรวจยังติดต่อไปยังญาติพี่น้อง ของผู้ตาย จนทราบว่าผู้ตายเป็นชาวจังหวัดระยอง ก่อนเกิดเหตุ ได้โทรศัพท์ไปบอกญาติว่า “ผมจะไปตายแล้วนะ“ แต่ไม่บอกพิกัดว่าที่ไหน ทางญาติพยายามตามหา แต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งมาพบว่าผู้ตายขับรถข้ามจังหวัด ก่อเหตุรมควันในรถตัวเองจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามตำรวจจะเรียกญาติมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อสรุปและสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป