‘โสภณ’ เป็นงง! ยังไม่ทันทำอะไรแต่ถูกตั้งฉายา ‘โสภณ เขากระโดง’ เมินคนโจมตี ‘ครม.ปราสาทสายฟ้าคอนเนคชั่น’ ลั่นเลือกเกิดไม่ได้ แต่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าคิดผิด แล้วจะเป็นพระเอก ชี้ ‘ภูมิใจไทย’ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ต้องยึดทำตามกฎหมาย มั่นใจยุบสภาใน 4 เดือน คู่แก้ปัญหาให้ปชช. 

วันที่ 21 ก.ย.68 ที่จ.ศรีสะเกษ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกต คณะรัฐมนตรี(ครม.)นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นปราสาทสายฟ้าคอนเนคชั่นว่า ก็มีการหมายถึงว่าเป็นคนบุรีรัมย์ ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย วันนี้พอพูดถึงบุรีรัมย์ จะมีคนอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีอคติก็จะพูดว่า คนบุรีรัมย์จะเข้าไปทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่กลุ่มที่รู้ความจริง เหมือนที่คนบุรีรัมย์รู้ว่า อะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้นต้องดูที่การกระทำเหมือนตนที่วันนี้ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แต่กลับถูกตั้งฉายาว่าโสภณ เขากระโดง

นายโสภณ กล่าวอีกว่า ตนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เพราะอยู่บุรีรัมย์ ขอถามว่า ที่ตนมีชื่ออยู่ในครม.ชุดนี้ ก็ต้องไปดูว่า สิ่งที่จะทำในอนาคตนั้นจะเหมือนกับคำปรามาสหรือไม่ ต้องมาพิสูจน์กัน ในสังคมนี้พอพูดเรื่องดีก็ไม่เชื่อ แต่พอพูดเรื่องไม่ดีก็เชื่อไว้ก่อนว่าจะทำแบบนั้น จะทำแบบนี้ จึงเป็นจุดอ่อนของสังคมไทย และการใช้โซเชียลมีเดียที่จริงบ้าง เท็จบ้างมาบั่นทอนความน่าเชื่อถือของคนที่ไม่รู้ความจริง 

“วันนี้ผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง และไม่ใช่แค่ผมนะ แต่สส.บุรีรัมย์ นักการเมืองของคนบุรีรัมย์ หรือมีชื่อคนบุรีรัมย์เข้าไปเป็นครม. ต้องพิสูจน์ว่า เราไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาคิด ตรงนี้สำคัญเพราะอนาคตของภูมิใจไทย มันไม่ได้อยู่ที่วันนี้อนาคตของภูมิใจไทยอยู่ที่ว่า ถ้าเราทำในสิ่งที่ทุกคนคาดผิดหมด พวกผมก็เป็นพระเอก” นายโสภณ กล่าว

นายโสภณ กล่าวต่อว่า เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ และภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ จึงต้องเดินตามครรลองของกฎหมาย เพราะเราหวังว่าจะเป็นพรรคการเมือง ที่เป็นสถาบันการเมือง หากพรรคใดไร้อุดมการณ์ ไม่ยึดในสิ่งที่ถูกต้องก็จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรา และสส.ทุ่มเทมา สิ่งที่ทำมาก็เป็นประโยชน์กับประชาชน 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเตรียม 4 ขุนพล ที่จะชำแหละนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา นายโสภณ กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร ตนไม่ห่วงเรื่องชำแหละ แต่ห่วงว่า เราจะมีเวลาพอที่จะได้พิสูจน์การทำงานบนพื้นฐานความเป็นจริงหรือไม่เพราะเวลา 4 เดือนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีการทำ MOA และรับปากกับพรรคที่พรรคที่สนับสนุนว่า จะยุบสภาใน 4 เดือน เชื่อว่าทำได้ แต่ในขณะเดียวกันวิกฤตของประเทศบางอย่างรอไม่ได้ และความเป็นรัฐบาลทุกวินาทีต้องทำเพื่อประเทศชาติ ต้องคู่กันไปกับการเดินหน้ายุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นรูปธรรม