เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่น ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ในการเลือกตั้งภายในพรรคที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 ตุลาคม โดยให้คำมั่นว่าจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นความน่าเชื่อถือของพรรครัฐบาลที่เพิ่งประสบผลงานไม่ดีในการเลือกตั้งระดับชาติครั้งก่อน และผลักดันนโยบายให้ค่าจ้างเติบโตเร็วกว่าอัตราค่าครองชีพเพื่อหนุนการบริโภคภายในประเทศ

โคอิซูมิ วัย 44 ปี (บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี จุนอิชิโร โคอิซูมิ) ระบุว่า จะให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก หากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค เขาเสนอแนวทางหลายประการ เช่น การประสานงานระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งญี่ปุ่นเพื่อควบคุมราคาและผลักดันการลงทุนของภาคเอกชน รวมทั้งตั้งเป้าเพิ่มค่าจ้างเฉลี่ยของแรงงานให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในปีงบประมาณ 2573 (2030) เพื่อให้ค่าจ้างเติบโตเร็วกว่าค่าครองชีพ

การชิงตำแหน่งผู้นำครั้งนี้มีผู้สมัครหลายราย โดย ซานาเอะ ทากาอิชิ (อดีตรัฐมนตรีกิจการภายในประเทศ) ถูกมองเป็นอีกหนึ่งตัวเต็ง รวมถึงผู้ท้าชิงจากฝ่ายอื่น ๆ เช่น โยชิมาสะ ฮายาชิ, โทชิมิตสึ โมเตกิ และทาคายูกิ โคบายาชิ ซึ่งการแข่งขันนี้เกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการเลือกตั้งระดับชาติที่ผ่านมาซึ่งทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเสียเสียงข้างมากในหลายสภา

แม้หัวหน้า LDP จะเป็นตัวแทนพรรคที่ใหญ่ที่สุด แต่การได้ตำแหน่งผู้นำพรรคก็ไม่ได้รับประกันว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีทันที เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาล (LDP–โคเมโตะ) ขณะนี้ไม่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรีหรือหัวหน้าพรรคคนใหม่จึงยังต้องหาการสนับสนุนจากฝั่งพันธมิตรหรือฝ่ายค้านในการผ่านร่างงบประมาณและกฎหมายสำคัญ ๆ

โคอิซูมิระบุด้วยว่า หากได้รับความไว้วางใจ จะเร่งจัดมาตรการผ่อนคลายผลกระทบราคาสินค้าโดยตรง เช่น การลดภาษีน้ำมันชั่วคราว ขยายการยกเว้นค่าใช้จ่ายครัวเรือน และใช้รายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อมาสนับสนุนมาตรการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อครัวเรือนได้จริง