วันที่ 19 กันยายน 2568 นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากกรณีพบปัญหาแก๊งมิจฉาชีพล่อลวงคนไร้บ้านบริเวณสนามหลวงและพื้นที่โดยรอบให้เปิดบัญชีม้า จึงได้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งให้ความรู้เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อ จัดหาอาชีพสร้างรายได้ พร้อมดูแลสวัสดิภาพขั้นพื้นฐาน

กทม. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีปัญหาดังกล่าว โดยสำนักพัฒนาสังคมและสำนักงานเขตพระนคร ได้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), ตำรวจนครบาล และเครือข่ายภาคประชาสังคม ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือคนไร้บ้านในบริเวณถนนราชดำเนินกลาง ซอยสาเก และใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าอย่างต่อเนื่อง

โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาและประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างเกราะป้องกันคนไร้บ้านจากการถูกหลอกลวง โดยเน้นย้ำให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่คนแปลกหน้า ไม่หลงเชื่อคำชักชวนให้เปิดบัญชีเพื่อแลกกับเงิน และเก็บรักษาเอกสารราชการให้ดีเพื่อป้องกันการสวมรอย หากพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้ว จะเร่งประสานตำรวจเพื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนและให้ความคุ้มครองตามกฎหมายทันที

นอกจากการป้องกันแล้ว กทม. ยังมุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการส่งเสริมอาชีพ โดยได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหางานที่เหมาะสม เช่น พนักงานสวน, พนักงานทำความสะอาด, ช่างก่อสร้าง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ไร้บ้านลงทะเบียนหางานแล้ว 259 คน ได้งานทำแล้ว 132 คน และอยู่ระหว่างรอเรียกตัวอีก 11 คน ผู้ที่สนใจสามารถมาลงทะเบียนได้ที่ "บ้านอิ่มใจ" หรือที่จุดบริการ Drop-in ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร) ได้ทุกวัน

โฆษก กทม. กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา กทม. ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อจัดระเบียบพื้นที่สนามหลวงมาตั้งแต่ปี 2553 โดยการติดตั้งรั้วและกำหนดเวลาเปิด-ปิดที่ชัดเจน ทำให้ปัญหาการตั้งถิ่นฐานค้างคืนในสนามหลวงลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยังคงพบคนไร้บ้านกระจายตัวอยู่บ้างในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงลงพื้นที่ติดตามให้ความช่วยเหลืออย่างสม่ำเสมอ

"กรุงเทพมหานครขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในขอบเขตอำนาจหน้าที่อย่างครบถ้วน และพร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่อลวงคนไร้บ้านเข้าสู่ขบวนการผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้คนไร้บ้านสามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน มีที่พัก มีอาชีพ และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน" นายเอกวรัญญู กล่าว

​​​​​​​ ​​​​​​​ ​​​​​​​