วันที่  19 ก.ย.68 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษนำโดย ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ และฝ่ายปกครองนำโดย นายสมยศ พลสว่าง ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอธัญบุรี นายกองตรี เสริมวิทย์ สมบัติ ป้องกันจังหวัดปทุมธานี นายอธิปัตย์ เสียมไหม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการ “ธัญโวลต์ ทลายเหมืองบิตคอยน์” โดยลงพื้นที่นำหมายค้นเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ในเขตอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หลังได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคกลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าสำหรับทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์อย่างผิดกฎหมาย 

จากการสืบสวนสอบสวนของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ในคดีพิเศษที่ 127/2567 พบว่าเครือข่ายผู้ต้องสงสัยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติร่วมมือกันเป็นขบวนการ ได้เช่าบ้านและอาคารพาณิชย์กว่า 25 แห่งในพื้นที่ชุมชนอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัลและลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ส่งผลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้รับความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาทต่อปี อันกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ผลการตรวจค้นปรากฎพบเครื่องขุดเงินดิจิทัล จำนวน 358 เครื่อง จึงยึดไว้ดำเนินการตามกฎหมาย 

​​​​​​​ ​​​​​​​

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอความร่วมมือประชาชนช่วยสอดส่อง หากพบอาคารพาณิชย์หรือสถานที่ต้องสงสัยเป็นเหมืองขุดเงินดิจิทัลผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทันที เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนอกจากสร้างความเสียหายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ต้องนำส่งให้กับรัฐ เนื่องจากการทำเหมืองบิตคอยน์ต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากเทียบเท่าโรงงานอุตสาหกรรมแต่ผู้ประกอบการบางรายกลับลักลอบดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ควบคุมให้มิเตอร์แสดงตัวเลขการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าความจริง จากการตรวจสอบประเมินได้ว่าบ้านหนึ่งหลังติดตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัล ประมาณ 12 เครื่อง แต่ละเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลัง 3.6 กิโลวัตต์ หากคิดค่าไฟฟ้าตามความเป็นจริงจะสูงราว 150,000 บาทต่อเดือน แต่กลับจ่ายเพียง 100 - 400 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังสร้างความเสี่ยงต่อชุมชนโดยรอบ เช่น ปัญหาไฟดับ ไฟตก และอัคคีภัยจากการใช้ไฟเกินกำลัง

ทั้งนี้ หากพบเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง กรมสอบสวนคดีพิเศษยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องความมั่นคงทางเศรษฐกิจและพลังงานของประเทศ