ชายแดนตึงเครียด เขมรส่งโดรน 15 ลำสอดแนม ปราสาทตาควาย ชาวบ้านระแวงหวั่นปะทะรอบ 2 เร็วๆนี้ ต่างตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตระหนก เก็บกระเป๋าพร้อมอพยพ ยายวัย 67 ปี บอกรักแม่ทัพ ให้รีบยิงให้จบเร็วๆก่อนเกษียณ ก่อนที่ข้าวในนาจะสุก

วันที่ 19 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 3-4วันที่ผ่านมา เกิดความตึงเครียดตามชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างผิดปกติ ทั้งที่หมู่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว และ ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี รวมไปถึงชายแดนด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม ที่ยังคงพอบกองกำลังทหารกัมพูชาเสริมกำลังและอาวุธประชิดชายแดน และส่งโดรนบินเข้ามาสอดแนมหลายพื้นที่ ประกอบกับวันนี้ได้มีการโปรดเกล้าแต่งตั้ง ครม.อนุทิน 36 คน 40 ตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก็ได้ไฟเขียวให้กองทัพจัดการปัญหาชายแดนอีกด้วย

นอกจากนี้ยังพบว่า เพจเฟสบุ๊คของกองทัพภาคที่ 2 ได้โพสต์ข้อความของ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 19 ก.ย.68 (เวลา 14.00 น.) ระบุใจความสำคัญบางช่วงว่า “สถานการณ์โดยรวม ตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรนบริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหาร - โดนตวล 12 ลำ, ปราสาทตาควาย 15 ลำ และช่องสายตะกู 1 ลำ ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทย จัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์

กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการรับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน หรือข่าวปลอม (Fake news) ขอให้ประชาชนโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และติดตามข้อมูล จากช่องทางอย่างเป็นทางการจากส่วนราชการ ซึ่งสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้อง และทันเวลา

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านตาเมียง และหมู่บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ พบว่าประชาชนยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ แม้จะรู้สึกหวาดระแวงว่าจะเกิดการสู้รบอีกครั้งในเร็วๆนี้  แต่ชาวบ้านก็มีความพร้อมตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตระหนก เพราะมีประสบการณ์อพยพมาแล้ว ต่างเตรียมสิ่งของจำเป็นใส่กระเป๋าไว้ตลอดเวลา หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นก็พร้อมจะอพยพออกจากพื้นที่ได้ทันที และต่างเรียกร้องให้รัฐบาลและทหารรีบจัดการปัญหาชายแดนให้จบโดยเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่ปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรักฯให้ยึดกลับมาเป็นของไทยคืนให้ได้ทั้งหมด

นางยอม ช่อเมืองดี อายุ 67 ปี อยู่ ม.1 บ.ตาเมียง ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้นำผู้สื่อข่าวดูกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ พร้อมกล่าวว่า ตนกังวลทุกคืนเฝ้าระวังทุกคืน กลัวจะมีรอบสองอีก ออกไปทำมาหากินก็ไม่ได้ ต้องอยู่ในบ้านเตรียมเฝ้าระวังตลอด ไว้ใจไม่ได้เขมร ฝากแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าตนเองรักแม่ทัพมากๆ อยากให้ยิงให้จบเร็วๆกลัวยืดเยื้อไปถึงหน้าเกี่ยวข้าว จะเกี่ยวข้าวไม่ได้ ฝากให้แม่ทัพรีบจัดการก่อนเกษียณด้วย เพราะท่านเคยสัญญาไว้  ตนเตรียมเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไว้บนรถเรียบร้อยแล้ว เขมรกวนตลอด ให้รีบจัดการ