ประเพณีทิ้งกระจาด เป็นประเพณีการทำบุญที่สำคัญของชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชาวจีนแต้จิ๋ว ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ประเพณีสารทจีน" หรือ "เทศกาลสารทจีน" ​ประเพณีนี้มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ ญาติมิตรผู้ล่วงลับ รวมถึงวิญญาณเร่ร่อนที่ไม่มีญาติคอยทำบุญให้ เชื่อกันว่าในเดือน 7 ตามปฏิทินจีน (เดือนผี) ประตูยมโลกจะเปิดออกเพื่อให้วิญญาณต่างๆ ได้เดินทางมายังโลกมนุษย์ การจัดงานทิ้งกระจาดจึงเป็นการแสดงความเมตตาและกตัญญู ด้วยการทำบุญใหญ่เพื่อสงเคราะห์และให้อาหารแก่ดวงวิญญาณเหล่านั้น

​ประเพณีทิ้งกระจาดประจำปี พ.ศ.2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโกคในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 รวม 3 จังหวัด เผยปีนี้ใช้งบฯถึง 15.5 ล้านบาท เพิ่มทั้งจำนวนชุดสิ่งของ และมูลค่าพาหนะ รองรับปริมาณผู้ยากไร้ที่มารอรับ และสภาวะเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น

โดยมี แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ ปถัดกรุงเททมหานคร เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วย ดร.สุทัศน์  เตชะวิบูลย์ รองประธามกรรมการ นายสัก กอแสงเรื่อง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นายวิรฬาตระไพบูลย์ ที่ปรึกษา ประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ จัดพิธีแจกเครื่องอุปโกคบริโภค เนื่องในงามประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 โดยมี  แขกผู้มีเกียรติ ผู้แทนหน่วยงานในเครือมูลนิธิฯ อาสาสมัครกิติติมศักดิ์ และอาสาสมัครศิลปิน อาทิ ดร.นางศิริพร โอภาสวงค์ นางศิริวรรณโอกาสวงศ์ และนายพลภัทร เตชะหรูวิจิตร ที่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ (จังหวัดที่ 3) รวม 12,000 ชุด ให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่เดินทางมารอรับกันอย่างเนืองแน่น พร้อมมอบค่าพาหนะคนละ 200 บาท ซึ่งในปีนี้ฉันเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาทั้งชุดเครื่องอุปโภคบริโภค และค่าพาหนะ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ยากไร้   โดยสิ่งของที่แจกประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำปลา น้ำมันพืช ขนมเสื้อผ้า รองเท้าแตะฟองน้ำ ฯลฯ บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ 

สำหรับบรรยากาศภายในงาน ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ และอาสมัครศิลปิน นำโดย นางควงตา ตุงคะมณี นายนพดล ทรงแสงชื่น) นายวสวิศร์ ศตพิพัฒน์ (ต้น-จักรกฤษณ์) นายสวิช เพชรวิเศษศิริ (บี่) นางสาวอธิชา เทศขำ (เมย์-อธิชา) ร่วมแจกสิ่งของแสดงคนตรี และสร้างสีสันภายในงาน โดยบรรยากากาศดื่มไปด้วยความสนุกสนาน และอิ่มเอมไจท์รวมทั้งได้มีผู้มีจิตศรัทธา ร่วมแจกจ่ายอาหาร และกะเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนที่มารอรับสิ่งของ รวมถึงเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครมูลนิธิฯ จัดทีมดูแลประชาชนตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 18 กันยายน 2568 เป็นต้นมา

ดร.สุทัศน์ กล่าวว่ากิจกรรมสำคัญในงานทิ้งกระจาด ชาวจีนส่วนใหญ่มักจะจัด​การตั้งโต๊ะบูชาและเซ่นไหว้: มีการเตรียมอาหารคาวหวานและเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อถวายแด่เทพเจ้าและบรรพบุรุษ ​การทิ้งทานหรือแจกข้าวสารอาหารแห้ง: เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของประเพณีนี้ โดยจะมีการนำข้าวสาร อาหารแห้ง ขนม และของใช้ต่างๆ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ยากไร้ เพื่อเป็นการทำบุญให้ทานแก่ดวงวิญญาณและผู้ที่ขาดแคลน​การประกอบพิธีทางศาสนา: มีการสวดมนต์และประกอบพิธีตามความเชื่อของศาสนาพุทธมหายาน เพื่ออุทิศส่วนกุศล​ความหมายเชิงสัญลักษณ์

​นอกจากจะเป็นการทำบุญตามความเชื่อแล้ว ประเพณีทิ้งกระจาดยังแฝงไปด้วยความหมายทางสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่​ความกตัญญู เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ​ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่: เป็นการส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นในสังคม ​การละเว้นจากความชั่วร้าย: เป็นการเตือนใจให้คนทำความดีและไม่เบียดเบียนผู้อื่น ​ในประเทศไทย ประเพณีทิ้งกระจาดที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดจัดขึ้นที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สำนักงานใหญ่ พลับพลาไชย กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสุพรรณบุรีและนครปฐม ซึ่งกลายเป็นงานประจำปีที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากมาร่วมงานเพื่อทำบุญและรับของแจกทาน

ดร.สุทัศน์  กล่าวว่างานประเพณีทิ้งกระจาค เป็นงามบุญที่สำคัญที่ปฏิบัติสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ด้วยการนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง มาเซ่นไหว้ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพชน และดวงวิญญาณที่ไร้ญาติ แล้วแล้วเจกเป็นทานแก่ผู้ยากไร้ เป็นงานมหาบุญที่ครบทั้งการทำบุญและให้ทาน ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ขัดทำสืบทอดประเพณีทิ้งกระจาดต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า100 ปี โดยในปี พ.ศ.2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร,คลินิกการประกอบโรคศิลป์ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพมหานคร รวม 3 จังหวัด คิดเป็นมูลค่า 15.5 ล้านบาท อีกด้วย