โครงงานวิจัยวิทยานิพนธ์ไม่ได้เป็นเพียงบทสรุปปลายทางของการเรียนมหาวิทยาลัย แต่คือเวทีแห่ง ความฝัน ความพยายาม และแรงบันดาลใจของนักศึกษาที่ตั้งใจเปลี่ยนองค์ความรู้ให้กลายเป็นนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง เบื้องหลังของแต่ละผลงานคือ ภาพสะท้อนของการคิดวิเคราะห์ การลงมือทำ และความกล้าที่จะท้าทายปัญหา เพื่อค้นหาคำตอบใหม่ๆ ที่จะสร้างคุณค่าให้กับสังคมและอุตสาหกรรม
เพื่อสานต่อพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ของน้องๆเยาวชน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาที่มีความสามารถด้านงานวิจัย บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ร่วมกับ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้จัดโครงการ “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2025 (Chalit Industry Award 2025)” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เพื่อมอบทุนวิจัยและยกย่องโครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่นให้กับน้องๆคณะวิศวกรรมศาสตร์ ช่วยจุดประกายให้คนรุ่นใหม่ภาคภูมิใจกับผลงานวิจัย พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยในอนาคต
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ โครงการ“ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2025” ได้จัดให้มีการนำเสนอผลงานและมอบทุนวิจัยโครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่น ประจำปี 2568 พร้อมใบประกาศเกียรติคุณฯ ให้กับน้องๆนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. โดยมี รศ.ดร. ทวิช พูลเงิน คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. เป็นประธาน และนายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด เป็นผู้มอบรางวัล ร่วมด้วย ดร.สมพร เพียรสุขมณี หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์, รศ.ดร. บวรโชค ผู้พัฒน์, ดร.ฐิตินันท์ มีทอง และ รศ.ดร.พร้อมพงษ์ ปานดี อาจารย์ประจำภาควิชา ตลอดจนคณาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องสัมมนา ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มจธ.
ทุนวิจัยดีเด่น “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2025” ในปีนี้คณะกรรมการการได้คัดเลือกผลงานโครงงานปริญญานิพนธ์ที่มีศักยภาพในการนําไปพัฒนาต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรมจริง ทั้งสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ และวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ จํานวน 4 โครงงาน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ด้านการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ 2 ผลงาน ได้แก่
1.การพัฒนาข้อกำหนดเฉพาะในการเชื่อมด้วยกระบวนการเชื่อมเลเซอร์เเบบฟัลส์บนวัสดุเหล็กหล่อ โดยไม่ใช้กระบวนการทางความร้อนก่อนเเละหลังการเชื่อม (โดย นส.สาริน่า เฮาเทอคีต, นส.รังสิมา รัสเซล และนส. รัชชุวรรณ ตันติวงค์) ซึ่ง นส.สาริน่า และนส.รังสิมา เปิดเผยว่า “รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัล ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2025 เหมือนสิ่งที่ตั้งใจทำได้รับการยอมรับ และสามารถนำไปพัฒนาต่อ
เพื่อเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากโครงการศึกษาครั้งนี้ ทำให้เข้าใจกระบวนการเชื่อมมากขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมเลเซอร์แบบพัลส์ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย และยังได้ฝึกการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบด้วยค่ะ”
2.การเพิ่มอัตราการเดินเครื่องจักรของกระบวนการขึ้นรูปเย็นของบริษัทกรณีศึกษา (โดย นส.กฤติยาพร ไกรสุดจิตร์, นส. ฐิตาภรณ์ แสงงิ้ว และนส. นาตาชา วัชระอนันท์) เพื่อหาแนวทางปรับปรุง เช่น การแยกงานที่ไม่จำเป็นออกไปทำภายนอก และนำระบบดิจิทัลเข้ามาช่วย เพื่อช่วยลดเวลาสูญเสียในกระบวนการผลิต ทำให้บริษัทสามารถใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่ามากขึ้น ช่วยลดภาระของพนักงาน และลดต้นทุนในการผลิต ผลให้กระบวนการผลิตมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านการผลิตและการพัฒนาในอุตสาหกรรมทั่วไป 2 ผลงาน ได้แก่
1.การพัฒนากระบวนการตรวจสอบตำหนิในแนวเชื่อมด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเรียงเฟสด้วยเทคนิค Full Matrix Capture และ Total Focusing Method (โดย นส.จิดาภา ขวัญเมือง, นส.วาสนา จันทร์แก้ว, นส. หทัยทิพย์ สกุลวงษ์ และ นส.ประสิตา มณีสุข) มุ่งเน้นการศึกษาและพัฒนากระบวนการตรวจสอบความไม่ต่อเนื่องในแนวเชื่อมด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเรียงเฟสด้วยเทคนิค Full Matrix Capture และ Total Focusing Method เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเพิ่มกำลังการผลิตตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า (โดย นส. กัลยา ตันติวัชรีกุล, นส. ชลิดา หาญพิพัฒน์ภากรณ์, นส. ธัญชนก อมรเทวภัทร และ นส. นริศรา ปุราชะโก) มุ่งเน้นการเพิ่มกำลังการผลิตในกระบวนการผลิตตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า เนื่องจากกำลังการผลิตเดิมไม่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ โดยได้นำแนวคิด Lean มาปรับใช้เพื่อลดความสูญเปล่าในกระบวนการให้มากที่สุด จากนั้นจึงออกแบบแนวทางการเพิ่มกำลังการผลิต โดยพิจารณาทั้งการเพิ่มพนักงาน เครื่องจักร และการจ้างแรงงานภายนอก ภายใต้ข้อจำกัดของกระบวนการและเป้าหมายการผลิต โดยได้นำเอาเทคนิคการจำลองสถานการณ์ (Simulation) เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และประเมินศักยภาพกำลังการผลิตของแนวทางที่ออกแบบ พร้อมทั้งทำการวิเคราะห์ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ของแนวทางที่ออกแบบ
นักศึกษาที่ได้รับรางวัล “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2025” ต่างแสดงความภาคภูมิใจ ที่ได้รับรางวัลนี้ รู้สึกว่าความพยายามในการตั้งใจทำโครงงานได้สัมฤทธิ์ผล เป็นกำลังใจให้ได้อยากไขว่ขว้าและเรียนรู้เพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และเห็นว่าการทำวิจัยเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาความรู้และทักษะจริง พร้อมต่อยอดสู่งานอุตสาหกรรมในอนาคต
ประสิตา มณีสุข หนึ่งในผู้ได้รับรางวัล “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2025” บอกว่า “รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติมากค่ะ รางวัลนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นพัฒนาตัวเองต่อไป เป็นเหมือนการยืนยันว่าเส้นทางที่เลือกเดินนั้นมีคุณค่า และสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้จริง”