ปากกาขนนก / สกุล บุณยทัต
“..อันเนื่องมาแต่ความรัก..ชีวิตของเราทุกคนย่อมต้องประสบกับความจริงของ “ความรู้สึกรัก”..ทั้งดี และร้าย..สมหวัง หรือ ผิดหวัง..กระทั่งตกอยู่กับความ..ว่างเปล่าเดียวดายไปจนชั่วชีวิต..!
นั่นคือ..ตราประทับแห่งความทรงจำที่สลักแน่นอยู่กับตัวตนของเรา..อย่างไม่มีวันสลายสิ้น..และลับหาย.! เป็นลมหายใจอันบริสุทธิ์..ที่ย้อนพัดกลับมาให้เราได้..สัมผัสรู้ในทุกๆวารวัย..! เป็นรากฐาน..ของการมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย....ในวิถีแห่งจิตวิญญาณที่นับเนื่องสู่จิตวิญญาณ..แท้จริง!
“เมื่อความผิดพลาดแห่งรักในอดีตเกิดขึ้น..ภาวะแห่งการถูกกัดกินใจ..จึ่งจารึกความรานร้าว..เอาไว้..เป็น “ความทรงจำแห่งชะตากรรม”..ที่ “ลืมตาตาย” ในหัวใจ..อยู่อย่างนั้น .!”
ภาวะรู้สึก..อันเกาะกินใจอย่างเนียนแนบข้างต้น..คือการ “รับรู้ในความรู้สึก” ผ่านสาระใจความจากความเป็นชีวิตของเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง..ในหนังสือรวมเรื่องสั้น.. “ความทรงจำครั้งที่ร้าว” (Someone Who Can't Hurt Me)..หนังสือที่สื่อผ่านนัยความรู้สึกแห่งรัก..ที่งดงามโดย.. “ชเวอึนยอง” นักเขียนชาวเกาหลีใต้..เป็นงานเขียนชิ้นที่สองของเธอ..โดยมุ่งประเด็นไปสู่บาดแผลในภาวะแห่งรักที่ติดตรึงและยากจะเยียวยา..
เนื่องเพราะ..ความโกรธและ ความหมองเศร้าในชีวิต..ที่คอยย้อนย้ำและโบยตี..ได้กลายเป็นเงื่อนปม..ของโศกนาฏกรรมที่ไม่รู้จบรู้สิ้น..แม้เมื่อใด..!
“เธอผู้เป็นดั่งค่ำคืนสว่างไสว”..มาจนถึงรวมเรื่องสั้นชุดนี้.. “ชเวอึนยอง” ได้นำให้ผู้อ่าน..ทั้งคว้านลึกและหยั่งลึกเข้าไป..ถึง “ภายในแห่งหัวใจ” ของผู้คนในฐานะตัวละครที่มีแต่ “รอยอดีต” และ กำลังทบทวน “ริ้วรอยแห่งร่องรอย” ของอดีตนั้นๆ ว่ากันว่า.. “เราอาจเคยถูกคนอื่นทำให้เจ็บปวด ..หรือแม้แต่เราก็อาจทำให้คนอื่นต้องได้รับความเจ็บปวด”
..ภายใต้การสั่นไหวนั้นๆในหัวใจ..อย่างละเอียดอ่อน และ ติดตรึง ผ่านนัยแห่งความเข้าใจ..!
* ประเด็นตัวอย่างเรื่องราว..แห่งสองพี่น้องที่ต้องห่างเหินกันไปด้วยความไม่เข้าใจ..คือบาดแผลที่ปรากฏ และปรารถนาการเยียวอย่างลึกซึ้งจากดวงใจของความขัดแย้งคู่นั้น..!
* ..เรื่องราวของ “ความทรงจำ” ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้า ในเวลาสั้นๆ..แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอันเหนือคาดคิด..! นี่ คือ ชีวิตของ..ความเป็นจริง?..หรือ..ชะตากรรมที่พระผู้เป็นเจ้า..ได้ทรงกำหนดขึ้นกันแน่?
*เรื่องราวของ “รักแรก” ณ ห้วงฤดูร้อนอันสดใส..หากแต่ต้อง “สุดทางรัก” และจบลงด้วยการเลิกลา..ภาวะเช่นนี้..ช่างกลืนกินความขมชื่นและ..เศร้านัก..!
* รวมทั้ง ..ประเด็นเรื่องราวของ “คนนอก”..คนอื่น..ที่ได้กลายมาเป็นครอบครัว..! ทั้งหมดนี้..ไม่อาจบ่งชี้ได้ว่า..มันคือประพันธกรรมที่เพียงช่วยให้เราได้รื้อฟื้นความทรงจำ..แต่มันคือ..สิ่งที่กลับพาให้เราสามารถก้าวข้ามมันไปด้วยกัน..กระทั่งบอกกับเราทุกได้ว่า.. “การโหยหาอดีต..ไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ...แต่แท้จริงเราทุกคนนั้น..ต่างเข้มแข็งพอที่จะยอมรับความจริงต่างหาก..เข้มแข็งพอที่เราจะยอมรับมันได้..ตั้งแต่ตอนนี้!”
ยิ่งสัมผัส..เรายิ่งได้ข้อคิดดีๆจากรวมเรื่องสั้นชุดนี้..แต่ละเรื่องล้วนมีสนามชีวิตที่เปิดเกมเล่นอย่างพลิกผัน..แต่มันกลับสอนให้เรา..ตระหนักถึงความเจ็บปวดและสูญเสีย ..ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต..ดั่งการเรียนรู้โลกของความเป็นจริง..!
ผ่านการเรียนรู้ที่จะรัก/ผ่านการเห็นคุณค่าของตนเอง/ผ่านการเติบโตด้วยการ..ยอมรับในความรู้สึกของตัวเอง../กระทั่งสามารถปล่อยวาง..ความพลาดพลั้ง..เกินพอดี..!
..จนทำให้เราสามารถใช้เวลาทบทวนเพื่อก้าวข้ามความผิดหวัง..จนท้ายที่สุดแล้ว.. “ความทรงจำจะช่วยให้ชีวิตของเราแข็งแกร่ง..และ..เข้าใจในความเป็น “ตัวตน” เพิ่มมากยิ่งขึ้น..!”
นอกจากนี้.. “ความทรงจำครั้งที่ร้าว..ยังสะกิดใจต่อเราว่า.. “ปัจจุบันถือเป็นสิ่งสำคัญ”.. แม้จะเคยเชื่อกันว่า อดีตนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม...หรือแม้จะเป็นสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดต่อชีวิตเพียงใด..
..แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้น..กลับคือ..การใช้ชีวิตกับปัจจุบันให้เต็มที่..เพราะอนาคต..ไม่มีใครสามารถรับประกันความมั่นคงและจริงแท้ได้เลย..!
เหตุนี้..เราจึงสมควรตั้งความหวังไว้ให้พอดี..หยุดไขว้คว้าหาสิ่งที่หลุดมือไป..เพราะหลายๆครั้ง..ความผิดหวังก็ก้าวเข้ามาสู่ชีวิตของเรา..โดยไม่รู้ตัว..และไม่ทันตั้งตัว..! ดั่งนั้น .. “การคาดหวังอย่างพอดี..จะช่วยลดความเจ็บปวดลงได้”
สุดท้าย..ความทรงจำกลับไม่ใช่ทั้งหมดของทั้งหมด..เพราะความทรงจำที่ดีหรือร้าย..เป็นสิ่งที่เราสามารถเลือกเก็บไว้ได้ ..และ..การที่เราหมั่นดูแล .. “สวนแห่งความทรงจำ” ของตัวเราเองให้มีแต่สิ่งที่สวยงาม..ก็เป็นสิ่งที่ย่อมกระทำได้..ด้วยการทบทวนที่เข้าใจ..
แน่นอนว่า..บางเรื่องราวที่หนักอึ้ง..อาจต้องใช้เวลา..เพื่อทบทวนและทำความเข้าใจ..จนที่สุดแล้ว.. “เราก็จะเข้าใจและรู้สึกแบบเดิม” ได้อีกต่อไป..!.
..การยอมรับความจริงของชีวิตในลักษณะเช่นนี้..โดยเฉพาะ..การยอมรับว่า..ทุกคนจะต้องพบกับความสูญเสีย..และจากลา..กับ “กฎ” ของเวลา ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้..!
“.. ทุกคนมีห้วงเวลาที่เลวร้ายได้..อาจเป็นความเจ็บป่วยทางใจ..ที่ถือเป็นเรื่องปกติ..ซึ่งมันสามารถจะเกิดขึ้นได้กับทุกๆคน..ด้วยเหตุนี้.. “การเผชิญหน้าและศึกษาอย่างถูกวิธี..จึงเป็นสิ่งที่ดีงามที่สุด..!”
*..การผูกโยง..นัยแห่งรักผ่านความรู้สึกของ “ความทรงจำครั้งที่ร้าว” ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเต็มไปด้วยความหมาย..ภาษาแห่งการเขียนของ “ชเวอึนยอง” ล้วงลึกเข้าไปสู่ธารสำนึกของหัวใจด้วยแก่นแท้ของภาวะอารมณ์เชิงประจักษ์..เป็นการค่อยๆถอดรหัสของจิตวิญญาณของความรัก..ด้วยการสลัดใบของอคติ..เพื่อก้าวสู่การหยั่งเห็นอันผุดผ่อง..นั่นเป็นสิ่งที่ผู้อ่านจะสัมผัสกับผัสสะอันวิจิตรตระการนี้โดยตลอด..ขณะที่ใจรับรู้ด้วยใจอันไหวสะท้าน..!
“จงเรียนรู้ที่จะพิจารณาตัวเอง...ก่อนที่จะรักใคร เราต้องให้ความรัก ความสำคัญ ต่อตัวเองก่อนเสมอ..!”
“มินตรา อินทรารัตน์” แปลและถอดความหนังสือเล่มนี้ออกมาอย่างละเมียดละไม..ด้วยภาษาชีวิตแห่งรัก..ที่เปี่ยมเต็มไปด้วยเจตจำนงของ “ความรื่นรมย์และเข้าใจ”
“ความทรงจำครั้งที่ร้าว” จึงเป็นหนังสือแห่งปีของประเทศ..ได้รับการโหวตให้เป็นหนังสืออันดับหนึ่งจากนักเขียน 50 คน..เมื่อปี 2018/รวมทั้งได้รับรางวัลชนะเลิศ Handbook 1160 Library Award ครั้งที่ 50 อีกด้วย..!
..ไม่ยากนัก..ที่เราจะเรียนรู้ถึงแก่นแท้ของความรักและความรู้สึกรัก..หากแม้เพียงเราจะรับรู้ เรียนรู้ และ รู้สึกกับมัน..ด้วยรอยแหว่งวิ่นหรือเติมเต็ม..ในกายภาพและชีวภาพแห่งดวงใจของสัมพันธภาพ..ของ “เราและเรา” บ้าง..ก็เท่านั้น..!
“..ความสัมพันธ์ที่ลืมไม่ลง..ย่อมจะกลับมา “ทำร้าย” ชีวิตของเรา..เสมอ!”