เมื่อวันที่ 18 ก.ย.68 ตัวแทนจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้นำนายแพทย์เฉพาะทางด้านหูคอจมูกของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งเข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังพบว่าบัญชีธนาคารของตนเองถูกอายัดไปกว่า 13-14 บัญชี รวมถึงบัญชีเงินเดือน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถเบิกเงินมาใช้จ่ายได้เลย โดยยอดเงินที่ถูกอายัดรวมกว่า 200,000 บาท
นายแพทย์ผู้เสียหายเล่าว่า บัญชีของเขาถูกอายัดตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อสอบถามธนาคารได้รับคำแนะนำให้ติดต่อศูนย์ AOC 1441 ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับเขาที่ สภ.นาหม่อม จังหวัดสงขลา เนื่องจากบัญชี TrueMoney Wallet ที่ใช้ชื่อของเขาถูกนำไปใช้รับโอนเงินค่าสินค้าจากต่างประเทศ 6,000 บาท แล้วไม่ได้รับสินค้า เมื่อโทรศัพท์ไปสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ก็ได้รับคำตอบว่ามีการสั่งอายัดเฉพาะบัญชี TrueMoney Wallet เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ได้จบเพียงแค่นั้น นายแพทย์ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ดินแดง ในวันที่ 12 กันยายน เพื่อยืนยันว่าตนถูกแอบอ้างนำชื่อไปเปิดบัญชี TrueMoney Wallet แต่กลับไม่สามารถแจ้งความได้ โดยตำรวจแจ้งว่าต้องรอให้ สภ.นาหม่อม ซึ่งเป็นเจ้าของคดีหลักส่งเรื่องมาให้ก่อน จึงทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น
นอกจากนี้ เมื่อโทรสอบถามไปยังคอลเซ็นเตอร์ของ TrueMoney Wallet ยังได้รับข้อมูลว่ามีการใช้บัตรประชาชนของตนเปิดบัญชีดังกล่าวอีก 3 บัญชี แต่บริษัทไม่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกได้ ต้องรอตำรวจทำหนังสือสอบถามอย่างเป็นทางการก่อน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าขณะนี้มีคดีที่เขาถูกผู้เสียหายแจ้งความว่าเป็นบัญชีม้าในพื้นที่ต่าง ๆ รวม 4 สถานีตำรวจ ได้แก่ สภ.นาหม่อม จ.สงขลา, สภ.หางดง จ.เชียงใหม่, สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และ สภ.หินด่าน จ.นครราชสีมา
นายแพทย์ยืนยันว่าตนไม่เคยเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น แต่กระบวนการที่ล่าช้าและยุ่งยาก ทำให้เขาได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถนำเงินในบัญชีที่ถูกอายัดมาใช้จ่ายได้เลย ต้องใช้เงินสดที่มีอยู่ไปพลาง ๆ ก่อน จึงตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจสอบสวนกลางเพื่อเร่งรัดกระบวนการและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อไป