ผู้ว่าฯ เชียงราย เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันจากอิทธิพลพายุ “วิภา” ในพื้นที่อำเภอเชียงของ

วันที่ 18 ก.ย.68 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเชิญสิ่งของพระราชทาน จากศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสาวงควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โปรดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ดำเนินการมอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 1,000 ชุด เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ หอประชุมเทศบาลตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยมี นางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย รอง ผอ.รมน.จังหวัดเชียงราย ผู้แทนนายอำเภอเชียงของ ผู้แทนนายอำเภอขุนพญาเม็งราย และนายอำเภอเทิง หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

โอกาสนี้ นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานอัญเชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ นายอำเภอ ผู้แทนนายอำเภอ พร้อมล่าวสำนึกในพระกรุณาธิคุณของ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสาวงควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ทรงมุ่งหวังในราษฎรมีความเป็นอยู่ที่ดี พระองค์ทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของราษฎรที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง เมื่อราษฎรในจังหวัดเชียงรายได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ในห้วงวันที่ 27 มิถุนายน – 12 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา จึงทรงพระกรุณาโปรดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ติดตามความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ และโปรดให้เชิญถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 1,000 ชุด มอบให้กับราษฎรผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอเชียงของ อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอเทิง เพื่อบรรเทาความทุกข์ให้กับราษฎรผู้ประสบภัย อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจกับผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้อีกด้วย

ในการนี้ นายฤทธิเดช จรรยาพงษ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อำเภอเชียงของ ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยในระหว่างวันที่ 20 – 29 กรกฎาคม 2568 เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน และประกอบกับได้รับอิทธิพลจากพายุ “วิภา” ส่งผลให้เกิดนำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 7 ตำบล 80 หมู่บ้าน มีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 4,400 หลังคาเรือน ประชาชนกว่า 10,384 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วนกว่า 2,146 หลัง พื้นที่การเกษตร นาข้าว พืชไร่ และพืชสวน เสียหายกว่า 27,407 ไร่ บ่อปลาเสียหายกว่า 614 บ่อ ถนน สะพาน ฝาย และตลิ่งถูกกัดเซาะเสียหายกว่า 56 จุด รวมถึงวัดและสถานที่ราชการหลายแห่งได้รับผลกระทบ และได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทางอำเภอเชียงของจึงได้เร่งบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ ท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชนจิตอาสา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซ่อมแซมบ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์ และฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรให้กลับคืนสู่สภาพปกติดดยเร็ว ขณะเดียวกันได้มีการดำเนินการสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ต่อไป