เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักร เสด็จเปิดพระราชวังวินด์เซอร์พร้อมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศและพระราชรถเทียมม้า เพื่อต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ อย่างสมพระเกียรติ ถือเป็นการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 ของผู้นำสหรัฐฯ ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดและการประท้วงทั่วกรุงลอนดอน
 
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาเสด็จตรวจแถวทหารกองเกียรติยศและทรงจัดพระราชรถเทียมม้าต้อนรับทรัมป์และภริยา โดยมีการใช้ม้ากว่า 120 ตัว และกำลังทหารอังกฤษ 1,300 นาย บางส่วนในชุดเครื่องแบบสีแดงและหมวกแข็งทองคำ เพื่อแสดงพระเกียรติยศในการเยือนครั้งสำคัญ ซึ่งถือเป็นการต้อนรับผู้นำต่างชาติครั้งใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร

ตามกำหนดการ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพำนักในอังกฤษเป็นเวลา 2 วัน เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 17 กันยายน โดยมีพิธีการใหญ่โตและการประชุมเชิงการเมืองเข้มข้น ขณะที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาประทับพระราชรถคันที่ 1 และ 2 ร่วมกับคู่ทรัมป์ ส่วนคณะผู้แทนระดับสูงของสหรัฐฯ นำโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ, รัฐมนตรีการคลัง สกอตต์ เบสเซนต์, ผู้แทนพิเศษ สตีฟ วิตค็อฟฟ์ และหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว ซูซี ไวล์ส นั่งในพระราชรถคันที่ 3 และ 4

การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงในสหรัฐฯ ตั้งแต่คดีลอบสังหารชาร์ลี เคิร์ก ผู้นำ MAGA คนรุ่นใหม่, การประท้วงต่อต้านผู้อพยพกว่า 100,000 คนในลอนดอน นำโดยทอมมี โรบินสัน ไปจนถึงการรื้อฟื้นคดีฉาวของมหาเศรษฐีอเมริกันผู้ล่วงลับ เจฟฟรีย์ เอปสตีน ที่ยังคงเชื่อมโยงถึงแวดวงการเมืองอเมริกันและอังกฤษ

รายงานข่าวระบุว่าตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คนจากเหตุฉายภาพโปรเจกเตอร์ของทรัมป์และเอปสตีนบนกำแพงพระราชวังวินด์เซอร์เมื่อค่ำวันที่ 16 กันยายน โดยคาดว่าจะมีการประท้วงหลายพันคนในกรุงลอนดอนวันที่ 17 กันยายน ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ เตรียมต้อนรับทรัมป์ในวันถัดไปที่บ้านพักเชกเกอร์ส

ในพิธีวันแรก เฮลิคอปเตอร์มารีน วัน นำผู้นำสหรัฐฯ ลงจอดที่เขตพระราชฐาน ก่อนเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีนเสด็จออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น และพาเข้าสู่พิธีการ ณ ตำหนักวิคตอเรีย

แม้พิธีการจะอลังการ แต่บรรยากาศภายนอกกลับเต็มไปด้วยการประท้วงใหญ่ที่จัดโดย Stop Trump Coalition เพื่อแสดงจุดยืนว่า “การเยือนครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยฉันทามติของประชาชนอังกฤษ”

มาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษถูกนำมาใช้ มีทั้งการปิดน่านฟ้า การส่งโดรนลาดตระเวน ตำรวจม้า และการระดมเจ้าหน้าที่กว่า 2,100 นายเข้าคุมเข้มในลอนดอนและรอบวินด์เซอร์ ถือเป็นปฏิบัติการความมั่นคงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่พิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

การเพิ่มมาตรการเข้มข้นเชื่อมโยงกับความเสี่ยงหลังเหตุลอบสังหารชาร์ลี เคิร์ก ผู้นำ MAGA วัย 31 ปี แต่แท้จริงแล้ว แผนรักษาความปลอดภัยได้ถูกเตรียมไว้มาหลายเดือนเพื่อรับมือการเยือนครั้งที่ 2 ของทรัมป์โดยเฉพาะ

น่านฟ้าวินด์เซอร์ถูกปิดชั่วคราว ตำรวจอังกฤษประจำการด้วยเฮลิคอปเตอร์และโดรนบินวนเพื่อตรวจการณ์ ขณะที่ตำรวจท้องถิ่นเทมส์แวลลีย์ร่วมกับหน่วยพิเศษทั่วประเทศระดมกำลังดูแลเข้มทุกฝีก้าวของผู้นำสหรัฐฯ