วันที่ 17 ก.ย.68  นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า [ ต้องบังคับใช้กฎหมายต่อการบุกรุกของชาวกัมพูชาอย่างเด็ดขาด เท่านั้น! ]

กรณีที่ชาวกัมพูชาก่อจลาจลในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างโจ่งแจ้ง ประเทศไทยจึงมี ความชอบธรรมเต็มที่ ในการดำเนินมาตรการสลายการชุมนุม โดยใช้แนวทาง “จากเบาไปหาหนัก” ตามคู่มือของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ว่าด้วยการใช้ “อาวุธที่ไม่ถึงตาย” (Guidance on Less-Lethal Weapons in Law Enforcement) เจ้าหน้าที่สามารถใช้กระบอง อุปกรณ์สร้างคลื่นเสียงความถี่สูง (LRAD หรือ Long Range Acoustic Device) แก๊สน้ำตา กระสุนยาง หรือปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ทันที

ในกรณีนี้ จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อควบคุมฝูงชนและสลายการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต

ผู้ก่อเหตุทั้งหมดจะต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายไทยอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานลักลอบเข้าเมือง บุกรุก มั่วสุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือการชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ไม่มีสิทธิยอมความได้ เพราะนี่คือการละเมิดอธิปไตยของประเทศไทยอย่างร้ายแรง

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศต้องรีบสรุปสถานการณ์ และรายงานการบังคับใช้กฎหมายให้ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน (ASEAN Interim Observation Team) รับทราบ เพื่อยืนยันชัดเจนว่ากัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไทยได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานสากล

ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องยื่นเงื่อนไขกับรัฐบาลกัมพูชาอย่างตรงไปตรงมา โดยสิ่งที่ทางกัมพูชาต้องดำเนินการก่อนเลยก็คือ

การเก็บกู้ทุ่นระเบิด

การยุติโดรนที่บินเข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทย

การถอนกำลัง และการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่แนวชายแดน

การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่เป็นการละเมิด MOU43 หรือรุกล้ำเข้ามาที่ฝั่งประเทศไทย

การบรรลุความร่วมมือกับ ปปง. และ ปอท. ที่ชัดเจนในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ การฟอกเงิน และการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากธุรกิจผิดกฎหมาย

ถ้ากัมพูชายังคงยึกยัก ดึงเวลา และไม่สามารถบรรลุในประเด็นต่างๆ เหล่านี้ได้ ผมคิดว่าเรื่องอื่น ก็คงยังไม่จำเป็นต้องคุยกันเลยครับ สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการค้าการขาย และการประกอบอาชีพ ก็ให้รัฐบาลพิจารณาใช้งบกลางในการเยียวยาประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเต็มที่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพักชำระค่างวดแบบพักทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย (ไม่ใช่พักชำระหนี้ แต่ดอกเบี้ยเดิน) และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมาก หรือปลอดดอกเบี้ยในระยะเวลาหนึ่งเพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพใหม่ ผมคิดว่าคนไทยพร้อมที่จะยอมให้รัฐบาลเอาเงินภาษีมาช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในยามยากอยู่แล้ว

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร