ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้ารับมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 รางวัลบริการภาครัฐ ประเภทขับเคลื่อนเห็นผล ในผลงาน"บูรณาการการรักษามะเร็งท่อน้ำดี : จาก Cancer center สู่โรงพยาบาลภูมิภาคในพื้นที่ระบาดของโรค"
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีรภัทร อึ้งตระกูล รักษาการคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยนายแพทย์วรวัฒน์ แสงวิภาสนภาพร หัวหน้างานอายุรกรรมทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขึ้นเวทีรับมอบรางวัลบริการภาครัฐ ประเภทขับเคลื่อนเห็นผล ในผลงาน"บูรณาการการรักษามะเร็งท่อน้ำดี : จาก Cancer center สู่โรงพยาบาลภูมิภาคในพื้นที่ระบาดของโรค" ในงานพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ภายใต้แนวคิด Smart Government & Smart Services: Driving for the Future ณ ห้องจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยรางวัลบริการภาครัฐ เป็นรางวัลที่แสดงถึงความพยายามของหน่วยงานของรัฐในการพัฒนา คุณภาพการให้บริการ เพื่อส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน
สำหรับ ผลงาน "บูรณาการการรักษามะเร็งท่อน้ำดี : จาก Cancer center สู่โรงพยาบาลภูมิภาคในพื้นที่ระบาดของโรค" เป็นโครงการที่ดำเนินงานโดยบูรณาการความร่วมมือจาก 4 ส่วนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน , โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ , โรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ และสำนักบริหารวิจัยและนวัตกรรม วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ โดยโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการต่อยอดการดำเนินงานจากพระปณิธาน ในศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ทรงริเริ่มและมีพระดำริให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดทำโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดีขึ้นตั้งแต่ปี 2554 ณ โรงพยาบาลบ้านหลวง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน เพื่อหาแนวทางป้องกันและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่มีอุบัติการณ์เกิดโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี ด้วยทรงมีความห่วงใยในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และทรงเพียรพยายามที่จะช่วยเหลือในการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศ
จากโครงการศึกษาวิจัยฯดังกล่าว ทำให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างส่วนงานต่างๆของราชวิทยาจุฬาภรณ์เพื่อพัฒนาบริการและนวัตกรรมสุขภาพด้านการป้องกันคัดกรองมะเร็งตับและท่อน้ำดีในพื้นที่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับการคัดกรองที่เหมาะสมและสามารถเข้าถึงการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ
• การจัดทำโครงการวิจัยคัดกรองและเฝ้าระวังโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีในพื้นที่ที่พบการระบาดเฉพาะถิ่น พร้อมทั้งการจัดอบรมหลักสูตรนักวิจัยชุมชนระยะสั้นที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบ้านหลวง เพื่อสร้างนักวิจัยชุมชนรุ่นใหม่ที่มีทักษะการเก็บข้อมูลอย่างถูกต้อง ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ข้อมูลวิจัยถูกต้อง ครอบคลุม และสะท้อนปัญหาจริงของชุมชน
• การจัดตั้งทีมวางแผนการรักษาโรคมะเร็งมะเร็งตับและท่อน้ำดี หรือ Liver Tumor Board ภายในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสหสาขาวิชาชีพในการร่วมกันพิจารณาแนวทางการรักษาที่ดีที่สุดและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด
• โรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ ได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพแพทย์โดยฝึกปฏิบัติการใช้อัลตราซาวด์เพื่อค้นหามะเร็งตับและท่อน้ำดี ในโรงพยาบาลภูมิภาคในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่าเป็นพื้นที่ระบาดของโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี เพื่อช่วยยกระดับทักษะการวินิจฉัยและการรักษา ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการตรวจคัดกรองและการรักษาได้รวดเร็วขึ้น
• การต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีคัดกรองมะเร็งตับและท่อน้ำดีด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับการตรวจอัลตราซาวด์ จากอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน และรังสีแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคระยะเริ่มต้น อันนำไปสู่การเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วย
• การรณรงค์ให้ความรู้ โดยคณะแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ได้จัดโครงการอาสาจุฬาภรณ์ เพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเอง ครอบครัว และชุมชน รวมถึงการสร้างระบบเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลในพื้นที่กับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ผ่านแอปพลิเคชันดิจิทัล
จากพระดำริและปณิธานขององค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สู่ผลแห่งการดำเนินงาน "บูรณาการการรักษามะเร็งท่อน้ำดี : จาก Cancer center สู่โรงพยาบาลภูมิภาคในพื้นที่ระบาดของโรค" เพื่อประโยชน์แห่งวงการแพทย์การสาธารณสุขและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน “รางวัลเลิศรัฐ” ซึ่งจัดโดยสำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อยกย่องหน่วยงานภาครัฐที่มีความโดดเด่นในการยกระดับประสิทธิภาพการบริหารราชการและการบริการสาธารณะที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้รับในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในการเป็นศูนย์กลางการศึกษาและวิจัยสู่ความเป็นเลิศด้านวิชาการและวิชาชีพ เพื่อบริการมวลมนุษยชาติอย่างยั่งยืน ตามปณิธาน พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้หน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ มุ่งพัฒนาศักยภาพการให้บริการเพื่อประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป