บันทึกข้อมูลรายงานนักโบราณคดีไม่ต้องแขวนขึ้นหิ้ง หรือถูกเก็บไว้ในกรุอีกต่อไป ศมส.จัดสแกนไฟล์ดิจิทัลเผยแพร่องค์ความรู้สู่สาธารณะ
นายพีรพน พิสณุพงศ์ ผอ.ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน)(ศมส.) กล่าวว่า จากการที่นำคณะกรรมการบริหารศมส.เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อถวายรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของศมส.ในโอกาสนี้พระองค์ทรงมีรับสั่งถึงการเก็บรวบรวมเอกสารรายงานของนักโบราณคดีที่จะต้องมีการบันทึกด้วยการสแกนเก็บไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินงานโครงการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นการวางแผนโครงการ สำรวจ เก็บข้อมูล ขุดค้น การศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เทคนิคการทำงาน และขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ จนจบโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากหลายพันรายการแต่กระจัดกระจายไปตามหอสมุด หอจดหมายเหตุแห่งชาติ ในพื้นที่ต่างๆ และมีบางส่วนที่เป็นรายงานเรื่องสำคัญถูกทำลายหายไปเพราะเหตุภัยพิบัติ และการเก็บรักษาที่ไม่ดีนัก ทั้งปลวกกิน น้ำท่วม โดยทรงเห็นว่าควรมีการเก็บรักษาและนำมาเผยแพร่ เพราะรายงานนักโบราณคดีเป็นประโยชน์ต่อการส่งต่อองค์ความรู้การดำเนินงานของนักโบราณคดีในอดีตสู่ปัจจุบันและผู้สนใจรุ่นต่อๆ ไป
“สมเด็จพระเทพฯ ทรงมีรับสั่งต่องานศมส. ว่าการจัดตั้ง ศมส. ขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์เผยแพร่ข้อมูลวิชาการในด้านมานุษยวิทยา พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ขณะเดียวกันในส่วนรายงานของนักโบราณคดีถือว่ามีความสำคัญและเกี่ยวพันในการทำงานของศมส. และนับวันจะเสี่ยงต่อความเสียหาย โดยบางเล่มมีการตีพิมพ์เป็นเอกสารทางการแล้วเป็นเรื่องที่มีประโยชน์แต่ไม่ได้รับความสนใจ ดังนั้นควรมีการสแกนเก็บไว้ จะเป็นการรักษาองค์ความรู้ ทั้งนี้หากเราทำให้สังคมสามารถสืบค้นข้อมูลเชิงลึกซึ่งอยู่ในบันทึกของนักโบราณคดีได้ จะทำให้องค์ความรู้ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิที่ถูกบันทึกไว้โดยนักโบราณคดี จนถึงที่สังเคราะห์แล้วเป็นข้อมูลทุติยภูมิ สามารถนำมาใช้งานได้ ไม่ต้องแขวนขึ้นหิ้ง หรือ ถูกเก็บไว้ในกรุอีกต่อไป”
นายพีรพน กล่าวอีกว่า ตนได้ประสานงานไปยังนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เพื่อหาแนวทางในการรวบรวมข้อมูล อนุรักษ์ และเผยแพร่รายงานของนักโบราณคดีให้เป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ได้มีแนวทางดำเนินงาน 2 ส่วน ได้แก่ ทางศมส. จะโอนงบประมาณไปยังสำนักศิลปากร เพื่อจ้างผู้มีความรู้ในการสแกนรายงานนักโบราณคดี นำมาจัดเก็บรูปแบบไฟล์ดิจิทัล และศมส.จะดำเนินการจ้างผู้มีความรู้ไปทำการสแกนในแต่ละพื้นที่เอง หลังจากเสร็จแล้วทางศมส.จะต้องทำการจำแนกประเภทของรายงานอีกครั้งก่อนที่จะนำมาเผยแพร่สาธารณะผ่านคลังข้อมูลนักโบราณคดีในเว็บไซต์ของศมส.