“ฉลาด ขามช่วง”และ “รังสิมันต์ โรม” ผนึกกำลังเป็นตัวแทนรัฐสภาไทย ร่วมประชุมใหญ่ที่มาเลเซีย สกัดข้อเสนอของกัมพูชาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยืนยันชัดเจนว่า เวที AIPA ไม่ใช่เวทีเจรจาข้อขัดแย้ง ควรเป็นเวทีสร้างสรรค์

วันที่ 17 ก.ย.2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ในการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA ครั้งที่ 46 กล่าวถึงเวทีการประชุมคณะกรรมการบริหารของประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ว่าที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบการประชุมต่อจากครั้งที่ผ่านมา แต่มีประเด็นใหม่ที่เพิ่มจากประเทศกัมพูชาที่พยายามเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาต่อที่ประชุม AIPA ในส่วนนี้ทางคณะผู้แทนรัฐสภาไทยเห็นว่าเวที AIPA ไม่ใช่เวทีคู่ขัดแย้งที่ต้องมาเจรจาให้เพื่อนประเทศสมาชิกลำบากใจ ซึ่งหลายประเทศให้การสนับสนุนว่าเวที AIPA ควรเป็นเวทีเพื่อความสร้างสรรค์มากกว่าการจับคู่เจรจา ที่ประชุมจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของฝ่ายไทยข้อเสนอ จากฝั่งของกัมพูชาจึงตกไป

“วันนี้จึงเป็นที่พึงพอใจของว่าทีมไทยแลนด์ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจไม่เสียชื่อทีมไทยแลนด์“ นายฉลาด กล่าว

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวว่า การเสนอของกัมพูชาเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้ายของการประชุมที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯคนที่สอง เมื่อทราบข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ1. เรื่องเฉลยศึกที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ2 เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ กัมพูชา ควรจะราบรื่นผ่านเวที GBC ซึ่งการหยิบยกมาพูดคุยอีกครั้งบนเวที AIPA ซึ่งเป็นเวทีพหุภาคีจะเป็นการทำให้เกิดประเด็นการเมือง และการแก้ปัญหาตามแนวชายแดนทำได้ยากยิ่งขึ้น

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คณะผู้แทนรัฐสภาไทยได้เน้นย้ำต่อที่ประชุม AIPA ว่าหากต้องการให้เปิดด่านชายแดน กัมพูชาต้องเดินหน้าใน 3 เรื่องเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นคือ1.การนำอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน 2.การจัดการทุ่นระเบิด 3.การจัดการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นประเทศไทยจึงไม่สามารถตอบรับข้อเสนอของกัมพูชาที่จะให้พิจารณาเรื่องนี้ได้