“เชาว์ มีขวด” ออกมาเปิดใจถึงการลาออกของ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” พร้อมชี้ชัดถึงปัญหาแท้จริงที่ไม่ได้อยู่ที่ผู้นำ แต่เป็นโครงสร้างและคน ที่ยังต้องประนีประนอมกับ “ระบอบทักษิณ” แม้มีเสียงเรียกร้อง “อภิสิทธิ์” กลับมาก็ไร้ประโยชน์หากไม่มีดาบอาญาสิทธิ์ในมือ
“เชาว์ ” ชมสปิริต “เฉลิมชัย” ยอมถอยเปิดทางเปลี่ยนพรรค จวกแรงหากยังเก็บ “ตัวถ่วง–สัญลักษณ์ความเสื่อม” ไว้ ต่อให้เปลี่ยนหัวหน้าก็ไม่พ้นตกต่ำ ชี้เสียงร้องหา “อภิสิทธิ์” ดังระงม แต่หากไร้ดาบอาญาสิทธิ์ก็ไร้ประโยชน์
วันที่ 16 ก.ย. 68 นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่แทนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ลาออก ว่าต้องยอมรับว่า การลาออกของนายเฉลิมชัย ถือเป็นการแสดงสปิริตที่ยอมถอย เพื่อเปิดทางให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริง แม้ที่ผ่านมาตนจะวิจารณ์นายเฉลิมชัยหนัก แต่การตัดสินใจครั้งนี้กลับสะท้อนให้เห็นว่า อย่างน้อยก็ยังมีคนที่รู้จักยอมรับความจริง และพร้อมเปิดทางให้พรรคเดินต่อไป แต่สิ่งที่น่าคิดคือ คนในพรรคที่เป็น สัญลักษณ์แห่งความเสื่อม ยอมหมอบราบคาบแก้วให้กับระบอบทักษิณอย่างไม่รู้จักอาย พร้อมที่จะมีสปิริตแบบนี้บ้างหรือไม่ เพราะปัญหาที่แท้จริงของประชาธิปัตย์ ไม่ได้อยู่ที่ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่อยู่ที่โครงสร้างและระบบที่ยังติดกับดักต้องประนีประนอมกับคนกลุ่มนี้ซึ่งกุมอำนาจพรรคอยู่ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อให้เปลี่ยนหัวหน้ากี่รอบ พรรคก็ยังวนอยู่ในความตกต่ำเดิม ๆ
“ผมมองว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคต้องพร้อมจะกลับไปยืนหยัดบนอุดมการณ์ที่เคยเป็นจุดแข็งหรือยัง เพราะถ้ายังเก็บคนทำลายพรรคเอาไว้ ใครเห็นก็ได้แต่ส่ายหน้า .นวันที่พรรคตกต่ำ เสียงเรียกหาหัวหน้าอภิสิทธิ์ แต่ในเวลาเดียวกัน คนที่อยากเห็นเขากลับมาก็ยังเต็มไปด้วย เงื่อนไขถ้าอยากเปลี่ยนพรรคจริง ต้องให้สิทธิ์เด็ดขาดในการปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่เพื่อให้ได้ สส. มากขึ้น แต่เพื่อทำให้ประชาธิปัตย์กลับมาเป็นทางเลือกของคนไทย และกลับไปอยู่ในใจของประชาชนอีกครั้ง” นายเชาว์ กล่าว