"วุฒิสภา" ปิดตายบุหรี่ไฟฟ้า หนุนห้ามนำเข้า (Total Ban) เด็ดขาด ยกเป็นปัญหาแห่งชาติก่อนไทยสิ้นชาติ แฉเกมธุรกิจใช้การตลาดมุ่งเป้าล่าเหยื่อเด็กเสพติดพุ่ง จวกสร้างค่านิยมผิดๆสูบแล้วเท่ห์ ยืนยันบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินอันตราย 2 พันชนิดส่งผลต่อระบบประสาทและสมอง ก่อสารพัดโรคมะเร็งอีกเพียบ ย้ำอีกรอบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยลดบุหรี่มวน
วันที่ 15 ก.ย.2568 ในการประชุมวุฒิสภา มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วุฒิสภามีมติให้ความเห็นชอบรายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง “สถานการณ์และปัญหาการบริโภคผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า” ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ที่มี นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล เป็นประธาน กมธ.รายงานดังกล่าวได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 13 หน่วยงานมาให้ข้อมูล และได้ข้อสรุปพร้อมข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อบริหารจัดการปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย รองประธาน กมธ.การสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัญหาการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยสำคัญระดับชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน มีสาเหตุสำคัญ 6 ประการ ได้แก่1.การตลาดบุหรี่ไฟฟ้ามุ่งเป้าไปที่เยาวชนแบบ “ล่าเหยื่อ” 2.การแพร่ระบาดเพิ่มสูง 3.บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายและเสพติดง่ายกว่าบุหรี่มวน 4. ขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับสารเคมีและสารเสพติดที่ใช้ผสมในน้ำยา 5.ไม่มีกฎหมายระดับพระราชบัญญัติควบคุมโดยตรงและ 6.กลไกป้องกันและการบังคับใช้ยังไม่มีประสิทธิภาพ
นพ.วีระพันธ์ กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าแม้ไม่มีควัน แต่ใช้น้ำยาที่มีสารเคมีกว่า 2,000 ชนิด สามารถแต่งเติมนิโคติน กลิ่น และรสต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าปลอดภัยกว่า ทั้งที่จริงแล้วส่งผลร้ายแรงต่อระบบประสาท สมอง และก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ปอดอักเสบรุนแรง ถุงลมโป่งพอง และโรคทางจิตเวช อีกทั้งยังเสี่ยงถูกนำไปผสมสารเสพติดอื่นได้ไม่จำกัด
ทั้งนี้ผลการศึกษาพบว่า แนวโน้มการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทยเพิ่มขึ้น 5.3 เท่าใน 7 ปี โดยจากปี 2558 มีผู้สูบเพียง 3.3% แต่ปี 2568 เพิ่มเป็น 17.6% สาเหตุเพราะผู้ประกอบการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ดูทันสมัย สีสันสดใสน่ารัก กลิ่นรสเหมือนขนมหรือผลไม้ ใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านโซเชียล ร้านค้าออนไลน์ และการสร้างค่านิยมผิด ๆ ว่า “สูบแล้วเท่ห์” หรือ “ช่วยเลิกบุหรี่ได้”
สำหรับผลกระทบ 4 ด้านใหญ่ต่อประเทศรายงานระบุผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้า 4 มิติ ได้แก่1.สุขภาพ ทำลายพัฒนาการสมอง ระบบทางเดินหายใจ หัวใจ NCDs มะเร็ง และโรคจิตเวช 2.ความปลอดภัย อุปกรณ์ไม่มีมาตรฐาน เสี่ยงระเบิดทำอันตราย 3. เศรษฐกิจ สูญเสียค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล และการเสียชีวิตก่อนวัยและ 4.ประชากร ลดศักยภาพแรงงาน กระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจและการแข่งขันระยะยาว
อย่างไรก็ตามคณะกมธ.การสาธารณสุข วุฒิสภา เสนอว่า ประเทศไทยควร คงมาตรการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด (Total Ban) พร้อมข้อเสนอเชิงนโยบาย 4 ด้าน คือด้านนโยบายและกฎหมาย – พิจารณาออก พ.ร.บ.เฉพาะ และตั้งองค์กรรับผิดชอบ ด้านการศึกษา รณรงค์สร้างการรับรู้และค่านิยมที่ถูกต้อง ด้านสังคม เพิ่มมาตรการควบคุมการขาย โฆษณา และรีวิว และ ด้านสุขภาพ–พัฒนาระบบบำบัดและช่วยเหลือผู้เสพติด
“สุขภาพของคนไทยไม่ใช่ตัวทดลองเพื่อพิสูจน์ผลลัพธ์ของการปลดล็อคบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายและเรียกร้องให้สมาชิกร่วมสนับสนุน Total Ban เพื่อปกป้องคนไทยจากอันตรายที่อาจนำไปสู่ ความสิ้นชาติหากปล่อยปละละเลย“นพ.วีระพันธ์ กล่าว