เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ย. 2568 ที่หอประชุมอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น นายประสิทธิ์ วงษาเทียม รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ลงพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามแผนงานขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เติบโตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมวางแนวทางลดเผาอ้อยสดรับนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ P.M.2.5

นายประสิทธิ์ วงษาเทียม รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวว่า การโอนเงินช่วยเหลืออ้อยสด 69 บาท ชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด 100% นั้นมีการโอนเงินเข้าให้เกษตรกรกว่า 90% หรือประมาณ 100,000 ราย แต่อาจจะยังเหลือบางส่วนที่ข้อมูลยังไม่ชัดเจนอย่างเช่นรายชื่อผิด บัญชีไม่เคลื่อนไหว ส่วนแนวทางปีนี้มีหลายแนวทางที่ใช้อยู่มาตรการแรกเป็นแนวทางการส่งเสริมมากกว่าในเรื่องการที่จะให้เกษตรกรตัดอ้อยสดมากขึ้นจากปีที่แล้วอ้อยไฟไหม้เหลือ 14.86% เท่านั้น จากแต่ก่อนประมาณ 60% ปีนี้มีหลายมาตรการประกอบด้วยมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจาก ธกส. ดอกเบี้ยร้อยละ 2 อีก 3 ปีข้างหน้าหรือมาตรการตัดอ้อยสดโดยจะมีการแจ้งล่วงหน้าเหมือน 69 บาทรอมติจากที่ประชุม

"ราคาอ้อยที่ได้รับ 80% ขึ้นอยู่กับราคาน้ำตาลที่ส่งออก ซึ่งต้องบริหารทั้งต้นน้ำและปลายน้ำด้วยต้องมองถึงปัจจัยตรงนี้ด้วยภาครัฐมองถึงการบริหารจัดการเรื่องของราคาน้ำตาลในอนาคตรวมทั้งการตัดอ้อยสดจะเหลือใบจะมีทางเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้ อย่างไรซึ่งตอนนี้มีการปรึกษากับกระทรวงพลังงานว่าโรงน้ำตาลที่อาจจะใช้ใบอ้อยและยอดอ้อย ที่เหลือจากการตัดอ้อยสดไปทำไฟฟ้าให้กระทรวงพลังงานโดยการไฟฟ้ารับซื้อในราคาที่ต่างจากไบโอแมสเดิมได้อย่างไร เพื่อนำประเด็นนี้มาชดเชยในเรื่องของต้นทุนการผลิต"

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ปีนี้ชาวไร่อ้อยขอนแก่นโดยเฉพาะ อ.น้ำพองประสบปัญหาโรคใบขาว ประกอบกับราคาน้ำตาลในตลาดโลกปีนี้ค่อนข้างจะไม่ดีเงินบาทแข็ง ดังนั้นก่อนเปิดหีบปีนี้จะมีมาตรการสร้างแรงจูงใจให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย  เพื่อจะไม่ให้เกิดปัญหาแบบปีที่ผ่านมา และไม่มีการประท้วงปิดถนนหรือปัญหาต่างๆอย่างแน่นอน