วันที่16 ก.ย.2568 ที่หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา บรรดาแม่ค้านำผลผลิตสะตอในพื้นที่มาวางจำหน่ายให้ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์  เพื่อให้ได้เลือกซื้อกันเป็นจำนวนมาก มีทั้งแบบแกะเม็ดขายแบ่งเป็นถุง ถุงเล็กครึ่งกิโลกรัม 150 บาท ถุงใหญ่กิโลกรัมละ 300 บาท โดยมีคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวไปเลือกซื้อกันอย่างคึกคักก่อนกลับบ้าน

แม่ค้าขายสะตอ เล่าว่า ช่วงนี้สะตอเริ่มมีผลผลิตออกมา ซึ่งปีนี้ผลผลิตสะตอออกมาเยอะ ชาวมาเลเซียชอบซื้อ เพราะเขาบอกว่าเป็นยาเบาหวาน ความดัน เพราะสะตอมีรสขม เขาชอบกินมาก แต่กินมากก็ไม่ได้จะร้อนใน ซื้อไปกินเพื่อเป็นยา และชาวมาเลเซียบางคนชอบกินเปล่าก็มี คนหนึ่งซื้อกลับไปคนละ 3-4 กิโลกรัม ส่วนร้านอาหารในมาเลเซียมักจะข้ามแดนมาซื้อ เพราะสะตอที่มาเลเซีย 2 ขีด 150 บาท ส่วนราคาที่เบตงสะตอแกะเม็ดแล้วกิโลกรัมละ 230บาท เป็นฝักลูกสวยเม็ดใหญ่กิโลกรัมละ 400-500 บาท สะตอเม็ดเล็กกิโลกรัมละ 300-350 บาท เป็นสะตอในท้องถิ่นของเบตงเลย โดยสะตอจะมี 2 แบบ คือ สะตอข้าว และสะตอดาน สะตอดานเม็ดจะใหญ่ ส่วนสะตอข้าวเม็ดจะเล็ก รสชาติของสะตอดานออกรสขมนิดๆ และมีเผ็ดปนเล็กน้อย ส่วนสะตอข้าวรสชาติจะออกมันๆ และมีรสหวาน ขมไม่มาก ชาวมาเลเซียนิยมซื้อสะตอข้าวของเบตง ส่วนร้านอาหารในมาเลเซียจะชอบสั่งสะตอเม็ดเล็ก

ส่วนรายได้ในช่วงหยุดยาวและในวันนี้ก่อนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางกลับสร้างรายได้อยู่ที่วันละ 1,500-2,800 บาท หลังจากหักทุนแล้ว ซึ่งรายได้แต่ละวันขึ้นอยู่กับสะตอจะมีมากหรือมีน้อย สะตอเบตงเริ่มออกมากแล้ว ปีนี้ออกทั้งปี ซึ่งขายหมดทุกวันจนต้องเพิ่มจำนวน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์ และอาทิตย์ ชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และก่อนเดินทางกลับประเทศจะแวะซื้อสะตอ และผลไม้อื่นๆ ของไทยนำกลับไปบริโภค และไปประกอบอาหาร ซึ่งในปีนี้สะตอออกผลผลิตเยอะมาก นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ต่างนิยมซื้อสะตอแบบแกะเม็ดไปประกอบอาหาร เพราะทราบดีว่าสะตอมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก เชื่อว่าการรับประทานเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ ช่วยลดความดันโลหิต มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยในการขับถ่าย

นอกจากนี้ แม่ค้าสะตอยังได้บอกวิธีระงับกลิ่นปากจากการรับประทานสะตอด้วยว่า เมื่อรับประทานสะตอเข้าไปแล้ว จะมีกลิ่นปาก ซึ่งเราสามารถกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นี้ได้ด้วยการรับประทานมะเขือเปราะตามไปประมาณ 2-3 ลูก จะช่วยในการดับกลิ่นเหม็นเขียวของสะตอได้ดีในระดับหนึ่ง  ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวเตือนว่า การบริโภคสะตอนั้นควรบริโภคให้พอเหมาะไม่มากจนเกินไป เนื่องจากสะตอมีกรดยูริกสูง สำหรับผู้ที่เป็นโรคเกาต์ หรือผู้ที่มีกรดยูริกในร่างกายสูงเกินค่ามาตรฐาน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานสะตอ เพราะอาจจะทำให้เกิดโรคเกาต์กำเริบได้ และกรดยูริกในร่างกายที่สูง ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่ว โรคไตอักเสบ และมีอาการหูอื้ออีกด้วย