วันที่ 16 กันยายน 2568 ที่หนองอีสานเขียว บ้านดู่ทุ่ง ต.ดู่ทุ่ง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นายสันชัย พัฒนะวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายสมชัย บูรณะ ปลัดจังหวัดยโสธร และ นายธนนชัย สืบพรม ประมงจังหวัดยโสธร นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และประชาชนจิตอาสาร่วมทำกิจกรรม สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แหล่งน้ำสำคัญของชุมชน เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568 ด้วยการปล่อยพันธุ์ปลาคุณภาพกว่า 200,000 ตัว คืนชีวิตและลมหายใจให้ธรรมชาติ สืบสานพระราชปณิธานด้านการอนุรักษ์ และก่อตั้งธนาคารอาหารอันอุดมสมบูรณ์ให้ลูกหลาน
กิจกรรมในครั้งนี้จังหวัดยโสธร โดยสำนักงานประมงจังหวัดยโสธร และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดยโสธรได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อให้ประชาชนในชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของแหล่งน้ำและสัตว์น้ำ รู้สึกเป็นเจ้าของ และเกิดความหวงแหน ร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำแห่งนี้ให้กลายเป็นแหล่งโปรตีนที่สมบูรณ์เป็นการตอกย้ำความสำคัญของวันประมงแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กันยายนของทุกปี ซึ่งวันสำคัญนี้ถือกำเนิดขึ้นจากข้อเสนอของสหกรณ์ประมงจังหวัดสมุทรสาครในปี พ.ศ. 2525 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ชาวประมงไทย ต่อมาในปี 2549 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้เปลี่ยนจากเดิมวันที่ 13 เมษายน มาเป็นวันที่ 21 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนที่แหล่งน้ำมีปริมาณมาก เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ และยังเป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมประมงในอดีตอีกด้วย
นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้มีเจตนารมณ์ที่แรงกล้าที่จะให้ทุกคนได้หลอมรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อช่วยกันดูแลทรัพยากรสัตว์น้ำ ซึ่งปลาที่นำมาปล่อยในวันนี้ ประกอบด้วย ปลายี่สกเทศ 100,000 ตัว ซึ่งเป็นราชาแห่งปลาเกล็ดน้ำจืด ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเติบโตไวและเป็นที่นิยมในการบริโภค ปลาตะเพียนขาว 50,000 ตัว ซึ่งเป็นปลาพื้นถิ่นคู่ครัวไทย เป็นปลาผู้พิทักษ์ความสมดุลของระบบนิเวศด้วยการกินพืชน้ำ และปลานวลจันทร์เทศ 50,000 ตัว ซึ่งเป็นปลากินพืชที่เลี้ยงง่ายและจะเป็นกำลังสำคัญในการเพิ่มผลผลิตในแหล่งน้ำแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันปลูกต้นยางนาเพื่อเป็นร่มเงาและเป็นปอดให้กับชุมชนต่อไปในอนาคตด้วย และในโอกาสนี้ได้ขอความร่วมมือทุกคน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำการประมงที่รับผิดชอบ เช่น การไม่ใช้อวนตาถี่ ไม่ช็อตปลา หรือใช้ยาเบื่อเมา เพราะการกระทำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตลูกปลาตัวเล็กตัวน้อย แต่ยังทำลายอนาคตทางอาหารของลูกหลาน ขณะเดียวกันก็ช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล เพื่อยุติผู้ที่กระทำที่ผิดกฎหมายทำให้ปลาที่ปล่อยในวันนี้ ได้มีโอกาสเติบโต ขยายพันธุ์ และกลับมาเป็นแหล่งอาหารหล่อเลี้ยงชุมชนได้อย่างแท้จริงและยั่งยืนต่อไป