วันที่ 16 กันยายน 2568 ที่บริเวณคลองรางอ้อ-รางแก้ว เขตบางเขน นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือว่า วานนี้ (15 ก.ย.68) สำนักการระบายน้ำ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเหนือที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท ได้รับทราบข้อมูลจากกรมชลประทานว่าจะมีการปล่อยน้ำ จากเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้น จากเดิมที่อัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) เพิ่มเป็นอัตราไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที โดยจะทยอยปรับอัตราขึ้น (ไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที) เนื่องจากปัจจุบันน้ำในเขื่อนมีปริมาณเพิ่มขึ้น เช่น เขื่อนภูมิพลมีปริมาณร้อยละ 78 เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณร้อยละ 88 แต่ยังไม่น่ากังวล และยังไม่มีผลกระทบต่อกรุงเทพมหานคร
ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครมีการก่อสร้างคันกั้นน้ำตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีความสูงไล่ระดับตั้งแต่ 2.8 เมตรถึง 3.5 เมตร ณ วันนี้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงสุดอยู่ที่ +2 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.ทรก.) จากอัตราการปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นของกรมชลประทาน คาดว่าแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีระดับน้ำสูงขึ้นไม่เกิน 30 เซนติเมตร ซึ่งยังมีระดับต่ำกว่าคันกั้นน้ำตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนจุดที่ต้องเฝ้าระวังคือชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่ ประกอบด้วย เขตดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา บางกอกน้อย และเขตคลองสาน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชุมชนหากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูง นอกจากนี้ได้สั่งการสำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำรวจพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ
รวมถึงจุดที่ยังก่อสร้างคันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาไม่แล้วเสร็จ โดยปัจจุบัน กทม.มีการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 32 จุด ดำเนินการแล้วเสร็จ 22 จุด และเหลืออีก 10 จุด โดยในจำนวนนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนอีก 3 จุด ส่วนที่เหลืออีก 7 จุดอยู่ระหว่างการของบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งในระหว่างนี้ได้มีการนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวป้องกันชั่วคราวแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวป้องกันชั่วคราวจุดอื่น ๆ เช่น บริเวณใต้สะพานพระราม 8 บริเวณวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร รวมถึงบริเวณทางขึ้นลงท่าเรือต่าง ๆ
ปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนสะสมประมาณ 1,300 มิลลิเมตร ตามสถิติที่ผ่านมาปริมาณฝนสะสมเฉลี่ยปีละ 1,600 มิลลิเมตร โดยมีพยากรณ์เฝ้าระวังเรื่องฝนถึงวันที่ 21 กันยายนนี้ ทั้งนี้ ปริมาณฝน 300 มิลลิเมตรที่เหลือตามสถิติ หากมีการตกทั่วพื้นที่แบบกระจายตัว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำมากนัก
"สำนักการระบายน้ำทำงานอย่างเต็มที่ ยังมีจุดเสี่ยงน้ำท่วมที่น่าเป็นห่วงคือ ถนนช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง เนื่องจากมีพื้นที่ต่ำ มีท่อระบายน้ำขนาดเล็กซึ่งต้องระบายน้ำในระยะไกล ครอบคลุมพื้นที่รับน้ำในบริเวณกว้าง อยู่ระหว่างก่อสร้างปรับปรุงยังไม่แล้วเสร็จ ประชาชนในพื้นที่อาจได้รับผลกระทบ ซึ่งสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตดอนเมืองได้ลงพื้นที่ติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้มากที่สุด" นายวิศณุ กล่าว