เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แม่แจ่ม รวมตัวยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ให้ช่วยเร่งติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำ
วันที่ 15 ก.ย.68 ที่บริเวณหน้าอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายอุทัย บุญเทียม ประธานเครือข่ายเกษตรกรอำเภอแม่แจ่ม นำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ รวมตัวมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ช่วยเร่งติดตามแนวทางการแก้ไขราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปัจจุบันมีราคาตกต่ำ
โดยที่ผ่านมาเครือข่ายเกษตรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่มได้ทำหนังสือผ่านนายอำเภอแม่แจ่ม ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เพื่อเสนอปัญหาและขอให้รัฐบาลหาแนวทางแก้ไขปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างเร่งด่วน โดยได้เสนอให้ภาครัฐผลักดันนโยบายรับจำนำราคาที่คุ้มทุน ออกมาตรการชดเชยต้นทุนการผลิต ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 30 ไร่ต่อราย และห้ามนำเข้าหรือชะลอการนำเข้าจากต่างประเทศตั้งแต่เดือนกันยายน 2568 - กุมภาพันธ์ 2569 รวมถึงให้มีการตรวจสอบฮั้วราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และทำการตรวจสอบสต๊อกของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ด้วย ขณะเดียวกันยังได้ขอให้รัฐบาลกำหนดราคาประกันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขั้นต่ำ ณ ความชื้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 14.50 ในราคากิโลกรัมละ 12.86 บาท ณ จุดรับซื้อในพื้น
ซึ่งขณะนี้เกษตรกรยังประสบกับปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ ขายในราคา 4.70 บาท สวนทางกับราคาต้นทุนที่สูงถึง 12 บาท ประกอบกับได้ส่งหนังสือขอรับการช่วยเหลือจนระยะเวลาผ่านไปเกือบจะ 1 เดือนแล้วแต่ยังไม่ได้รับการประสานงานแจ้งความคืบหน้าแต่อย่างใด ดังนั้นในวันนี้กลุ่มเกษตรกรฯ จึงได้มาทวงถามความคืบหน้า โดยประกาศว่า หากไม่มีความคืบหน้าใดๆ กลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักค้างแรมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมระดมกลุ่มเกษตรจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ ยกระดับการชุมนุนให้ใหญ่ยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ได้มีการปราศรัยและเจรจากันสักพัก นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้เป็นผู้แทนมารับหนังสือร้องเรียนของกลุ่มเกษตรกรไว้ด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่า ตนยินดีรับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกรชาวอำเภอแม่แจ่ม โดยรับปากว่าข้อเสนอทั้งหมดที่ทางเกษตรกรได้เสนอมานี้จะถูกนำเรื่องส่งไปยังผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจในการตัดสินใจได้พิจารณาให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนในระดับพื้นที่หากมีสิ่งไหนที่เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ตนก็พร้อมที่จะตัดสินใจทันที และพร้อมเป็นโซ่กลางในการประสานงานกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาและจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะกระจายโอกาสอย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้มีการยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แล้วเรียบร้อย ได้มีการเชิญผู้แทนกลุ่มเกษตรกร และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไปหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ณ ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป