วันที่ 14 ก.ย.2568 จากกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยให้เหตุผลว่ามาจากปัญหาสุขภาพส่วนตัวนั้น ล่าสุดมีรายงานว่า ประเด็นปัญหาจริง มาจากแรงกดดันในพรรค โดยเฉพาะในกลุ่ม สส.และกรรมการบริหารพรรค ที่เห็นว่านายเฉลิมชัย ไม่สามารถนำพาพรรคประชาธิปัตย์อยู่รอด หรือทำให้สถานการณ์ของพรรคดีขึ้นได้ โดยเฉพาะท่าทีของ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ที่เปิดหน้าชนนายเฉลิมชัย อย่างหมดความเกรงใจ

แหล่งข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายเฉลิมชัย กับนายเดชอิศม์ ได้เคยปิดห้องคุยกัน ร้อนแรงถึงขนาดมีการเอ่ยชื่อบุคคลบางคนที่น่าจะมาเป็นผู้นำและทำให้สถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการสื่อสารอย่างชัดเจนว่า ต้องการให้นายเฉลิมชัย ลาออกไป เพื่อเปิดทางให้คนอื่นที่มีความเหมาะสมมากกว่ามาฟื้นฟูพรรค

ทั้งนี้ จุดแตกหัก ที่ทำให้นายเฉลิมชัย ตัดสินใจว่าไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อีกต่อไป คือวันที่นายเดชอิศม์ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจอยู่ฝั่งพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน 100% โดยไม่ได้ปรึกษาหรือถามความเห็นจากนายเฉลิมชัย ก่อนร่วมคณะกับพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคร่วมรัฐบาลเดิมไปเจรจากับพรรคประชาชน (ปชน.) โดยพูดกับนักข่าวแบบไม่ให้เกียรตินายเฉลิมชัย เลยว่า "อ้าว พี่ลืมบอกพี่ต่อ"

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ในจังหวะเดียวกันนั้น นายเฉลิมชัยได้รับทราบว่า มี สส.ของพรรคกลุ่มหนึ่งได้ไปพูดคุยกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้กลับมาช่วยฟื้นฟูพรรคด้วย ยิ่งเป็นการตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการนายเฉลิมชัย อีกต่อไป

นอกจากนี้ วันเดียวกันที่นายเฉลิมชัย ลาออก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค ก็ได้โพสต์ภาพคู่กับ นายกรณ์ จาติกวณิช  อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมติดแฮชแท็ก #ฟ้าวันใหม่สดใสเสมอ ด้วย ยิ่งสอดคล้องกับกระแสข่าวปัญหาภายในพรรคกระหน่ำ จนนายเฉลิมชัย ต้องตัดสินใจ

อนาคตทางการเมืองชองนายเฉลิมชัย นับจากนี้จะยุติลงเด็ดขาดเหมือนที่เคยประกาศไว้หรือไม่ ยังไม่มีใครยืนยันได้ ขณะที่อนาคตของพรรคประชาธิปัตย์จะได้ใครมาเป็นผู้นำพาฝ่าพายุต่อไป ก็ยังไม่มีคำตอบชัดเจนเช่นกัน โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังเก็บตัวเงียบ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธอย่างชัดเจน