กองปราบบุกจับแก๊งเงินกู้นอกระบบกลางเมืองอุบลฯ คิดดอกเบี้ยรายวันสุดโหดกว่า 720% ต่อปี เหยื่อกู้ 30,000 บาท แต่ต้องจ่ายดอกเกิน 200,000 บาทภายในสองปี สุดท้ายเงินต้นยังคงอยู่ที่เดิม

เมื่อวันที่ 14 กันยายน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ต.สุวิจักขณ์ รัตนพันธ์ สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุมนายทักษิณ อายุ 24 ปี และนายนฤบดี อายุ 24 ปี (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดีเงินกู้นอกระบบ

โดยทั้งสองถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันประกอบกิจการเป็นผู้ให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ อาทิ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์สีดำ-แดง 1 คัน เอกสารสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของลูกหนี้รวม 12 แผ่น และนามบัตรที่ใช้ประกอบธุรกิจปล่อยกู้นอกระบบ

คดีนี้เริ่มจากการร้องเรียนของนายเอ (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ซึ่งตกเป็นเหยื่อดอกเบี้ยโหด หลังจากกู้เงินจำนวน 30,000 บาท เพื่อนำมาหมุนธุรกิจ แต่ถูกบังคับให้จ่ายดอกเบี้ยรายวันสูงถึง 600 บาท คิดเป็น ดอกเบี้ยร้อยละ 720 ต่อปี แม้ตลอด 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาได้จ่ายดอกเบี้ยไปแล้วกว่า 200,000 บาท แต่เงินต้นก็ยังคงอยู่ที่ 30,000 บาท ไม่ลดลงแม้แต่บาทเดียว ทำให้เจ้าตัวแทบหมดตัวและต้องหันมาขอความช่วยเหลือจากกองปราบปราม

เจ้าหน้าที่สืบสวนจนพบพฤติกรรมปล่อยเงินกู้จริง และสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ขณะกำลังออกเก็บเงินจากลูกหนี้ที่ตลาดเทศบาล 6 จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลางดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงถูกนำตัวส่ง สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเตรียมขยายผลหาตัวนายทุนที่อยู่เบื้องหลังต่อไป