นายแบกนางแบกพรรคเพื่อไทย แห่ถามลั่นโซเชียล “พรรคเพื่อไทยสูญพันธุ์กี่โมง?” “ทักษิณเสื่อมมนต์กี่โมง?” ภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 7 เชียงราย เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา หักปากกาเซียน เมื่อปรากฏว่าผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยมีชัยชนะเหนือผู้สมัครจากพรรคประชาชน ทิ้งห่างกว่า 2 หมื่นคะแนน

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 7 เชียงรายครั้งนี้ ถือเป็นการวัดกระแสความนิยมที่สำคัญระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ นอกจากปัจจัยที่ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส. เชียงราย เขต 7 พรรคเพื่อไทย ต้องพ้นจากตำแหน่งจากพิษมาตรา 144 ทำให้ต้องเลือกตั้งซ่อมกันใหม่แล้ว ยังมีปัจจัยที่ แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่คือ อนุทิน ชาญวีรกูล

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ สง่า พรมเมือง จากพรรคเพื่อไทย ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียง 43,229 คะแนน ขณะที่ สุทัศน์ ยาละ จากพรรคประชาชน ได้ 18,252 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิ์ 74,221 คน จากผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 125,283 คน คิดเป็นร้อยละ 59.24

จากชัยชนะของพรรคเพื่อไทยสะท้อนให้เห็นว่าฐานเสียงเดิมยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีกระแสข่าวเชิงลบและสถานการณ์ทางการเมืองที่ผันผวน แต่ยังรักษาฐานที่มั่นไว้ได้ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและอิทธิพลของตระกูล “ติยะไพรัช”

กระแส ทักษิณ ชินวัตร ที่กลับเข้ามาประเทศไทยและถูกศาลฎีกาสั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี  ซึ่งกลายเป็นกระแสเชิงบวก ยังคงมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในพื้นที่นี้

ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาชนยังไม่สามารถเจาะฐานเสียงหลักได้ คะแนนที่ได้รับสะท้อนให้เห็นว่า ถึงแม้จะมีกระแสตอบรับที่ดีในบางส่วน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะโค่นล้มฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทยในเขตเลือกตั้งนี้ ซึ่งแตกต่างจากผลการเลือกตั้งปี 2566 ที่พรรคก้าวไกลสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. ในภาคเหนือตอนบนได้หลายเขต

ขณะเดียวกันยังอาจสะท้อนถึงกระแสความไม่พอใจของโหวตเตอร์พรรคประชาชน หลังจากไปทำ MOA ให้การสนับสนุน อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เชียงราย เขต 7 ครั้งนี้เป็นเหมือนเครื่องบ่งชี้ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงมีโอกาสที่จะเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมาได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่เป็นฐานเสียงดั้งเดิม ขณะที่พรรคประชาชนยังคงต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อขยายฐานเสียงให้แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งทั้งสองพรรคยังคงต้องแข่งขันกันอย่างเข้มข้น และการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทั้งสองฝ่ายในการวางแผนยุทธศาสตร์ทางการเมืองต่อไป

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าสนามนี้ไม่มีพรรคภูมิใจไทยลงแข่งด้วย แต่ในการเลือกตั้งใหญ่นั้นจะมีพรรคภูมิใจไทย ที่ตอนนี้เรืองอำนาจและมีการบริหารจัดการที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากกุนซือสมองเพชรอย่าง เนวิน ชิดชอบ ก็เป็นเรื่องที่ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนจะต้องคิดให้หนัก

#ผลการเลือกตั้งซ่อมเชียงราย #ทักษิณชินวัตร #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน