วันที่ 15 กันยายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง สถานการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลาง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ซึ่งเคลื่อนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และอ่าวไทยตอนบน ขณะเดียวกัน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงต้องเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจนำไปสู่น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับสภาพคลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นจะสูงมากกว่า 2 เมตร จึงขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนอง
สำหรับพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 15 – 16 กันยายน ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะเริ่มมีฝนลดลง แต่ประเทศไทยโดยรวมยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง คลื่นสูง 1 - 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และจะสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณฝนฟ้าคะนอง
จากนั้นในช่วงวันที่ 17 – 21 กันยายน สถานการณ์ฝนจะยังคงหนักหน่วง โดยภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันออก จะมีฝนตกหนักบางแห่ง และจะมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นผลมาจากร่องมรสุมที่จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประชาชนในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นจะสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือยังคงต้องเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง
ด้านสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานว่า สำหรับสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คาดการณ์ว่าวันนี้จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 32-33 องศาเซลเซียส โดยมีลมแปรปรวนความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ เวลา 07.00 น. ของวันที่ 15 กันยายน) พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนตกปานกลางถึงหนัก โดยมีปริมาณฝนสูงสุดที่จุดวัดปากคลองตลาด เขตพระนคร 68.5 มิลลิเมตร รองลงมาคือสำนักงานเขตบางรัก 66.0 มิลลิเมตร และสถานีสูบน้ำคลองมอญ เขตบางกอกน้อย 65.0 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานว่าจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลักต่างๆ แห้งเป็นปกติแล้ว
ด้านสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 15 กันยายน 2568 รายงานค่าระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออกยังคงอยู่ในระดับปกติ โดยประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) วัดได้ +1.42 ม.รทก. (ระดับวิกฤติ +1.80) ประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) วัดได้ +0.41 ม.รทก. (ระดับวิกฤติ +0.70) และประตูระบายน้ำลาดกระบัง วัดได้ +0.16 ม.รทก. (ระดับวิกฤติ +0.35)
สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ขึ้นสูงสุดเมื่อวานนี้ (14 กันยายน 2568) ที่สถานีสูบน้ำบางนา อยู่ที่ +1.30 ม.รทก. เวลา 21.00 น. ประตูระบายน้ำปากคลองตลาด +1.55 ม.รทก. เวลา 22.00 น. และสถานีสูบน้ำบางเขนใหม่ +1.72 ม.รทก. เวลา 22.00 น. ส่วนฐานน้ำขึ้นสูงสุดของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าสถานีกองบัญชาการกองทัพเรือในวันนี้ (15 กันยายน 2568) ในช่วงเช้าอยู่ที่ 0.85 ม.รทก. เวลา 14.00 น. และในช่วงบ่ายอยู่ที่ 1.09 ม.รทก. เวลา 21.08 น. ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนี้ (15 กันยายน 2568) วัดได้ที่นครสวรรค์ 2,224 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และสามโคก จังหวัดปทุมธานี มีค่าเฉลี่ย 2,025 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
รายงานความเค็มสูงสุดของแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 แสดงให้เห็นว่าค่าความเค็มยังอยู่ในระดับต่ำมาก โดยที่สถานีแจ้งร้อน สถานีดาวคะนอง และสถานีบางกอกใหญ่ วัดได้ 0.1 กรัม/ลิตร เวลา 21.00 น. สถานีเทเวศร์ 0.1 กรัม/ลิตร เวลา 22.00 น. และสถานีบางเขนใหม่ 0.0 กรัม/ลิตร เวลา 22.00 น. ซึ่งค่าเหล่านี้ต่ำกว่าระดับที่ควรระมัดระวังในการใช้กับพืชทั่วไป (1.2 กรัม/ลิตร) มาก