วันที่ 14 ก.ย.2568 ที่นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายชวน หลีกภัย ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมชมงานสารทเดือน 10 ไนท์แฟร์ ซึ่งจัดขึ้นที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ริมถนนกาญจนาภิเษก โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่12 ก.ย.-22 ก.ย.2568
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสาน ประเพณีวัฒนธรรมของชาวภาคใต้ และจัดมาอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ได้ขนทัพสินค้าจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ขึ้นมาจำหน่ายถึงกว่า 150 ร้านค้า เป็นสินค้า OTOP และอาหารพื้นถิ่น ที่หากินได้ยาก
โดย นายชวน หลีกภัย เดินเยี่ยมชมตลาดภายในงานและทักทายกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและเหล่าบรรดาเอฟซี มาทักทายตลอดเส้นทาง ถ่ายรูปกันอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะเดินไปนั่งรับประทานอาหารร่วมกับประชาชนที่ร้านป้าโทน ซึ่งเป็นร้านจากจังหวัดนครนครศรีธรรมราชที่มาออกร้าน และขึ้นไปทักทายกับประชาชนที่มามาเที่ยวชมงานบนเวที และขึ้นกล่าวกับพี่น้องประชาชน ชื่นชมการจัดงานของสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนายกสุรเชษฐ์ หักพาล โดยขอชื่นชมว่า การจัดงานได้ยิ่งใหญ่ และไม่เพียงแต่จะรวบรวมร้านค้าร้านอาหาร ของดีจากปักษ์ใต้มาให้ได้เลือกซื้อหา ยังเป็นการรวบรวมชาวปักษ์ใต้ ที่ไม่มีโอกาสเดินทางกลับภูมิลำเนา มาร่วมกันครั้งใหญ่ เพื่อสืบสานประเพณี
นายชวน กล่าวว่า งานปีนี้จัดได้อย่างยิ่งใหญ่ สามารถจัดเส้นทางเดินซื้อสินค้าได้กว้างขวาง ทำให้ประชาชนสามาถเลือกซื้อได้อย่างสะดวก และแทบไม่น่าเชื่อว่า จะเห็นการจับจ่ายซื้อสินค้า อย่างสนุกสนาน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ ไม่ค่อยดี ราคาทองคำพุ่งและเงินเฟ้อกำลังจะเริ่มแล้ว จากนี้ไปเศรษฐกิจไทย อาจจะย่ำแย่ไปกว่านี้ ขอให้ทุกคนยึดเอาพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในชีวิต และใช้อย่างมีสติ สิ่งใดไม่ควรซื้อ ก็ขอให้ชะลอไว้ก่อน แต่ไม่ใช่หยุดซื้อ เพราะอาจจะทำให้ เกิดภาวะตลาดชะงักงัน แต่ขอให้ใช้จ่ายอย่างมีสติ เพื่อร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก หลังจากกล่าวกับมวลชนได้เดินทาง มานั่งหารือกับนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ถึงความคืบหน้าในการซ่อมแซมปรับปรับปรุงอาคารสมาคม ซึ่งเริ่มดำเนินการมาแล้ว 3 เดือน ภายใต้งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท ที่นายกสมาคมดำเนินการจัดหามา เพื่อดำเนินการรีโนเวทให้สมาคม ที่มีพื้นที่ 11 ไร่ มีความสง่างาม และยังยึดแนวอารยะสถาปัตย์ สืบสานวิถีวัฒนธรรมชาวปักษ์ใต้ มาให้ชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใช้เป็นแลนด์มาร์ค ในการจัดกิจกรรม จัดงานเลี้ยงสัมมนา และเป็นที่พักพิงสำหรับพี่น้องชาวภาคใต้ ที่ส่งลูกหลานขึ้นมาเรียนหนังสือ แต่ยังหาที่พักไม่ได้ด้วย