สถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ของจังหวัดพิจิตรยังไม่มีแนวโน้มว่าจะบรรเทาล่าสุดชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำยม ซึ่งถูกน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมวัดและที่อยู่อาศัยโอดครวญใช้ชีวิตยากลำบากวอนขอเครื่องยังชีพ-น้ำดื่ม-ข้าวสาร-ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า
วันที่ 14 ก.ย.68 นายวินัย พรศิริ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 10 บ้านวังปลาทู ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร และเป็น อบต.กำแพงดินได้พายเรือพาผู้สื่อข่าวดูสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของหมู่บ้านวังปลาทู ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมทั้งสองฝั่ง มีบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่ริมแม่น้ำยมประมาณ 200 หลังคาเรือน โดยตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำยมได้เอ่อล้นตลิ่ง ทำให้น้ำท่วมวัดวังปลาทู ซึ่งมีพระอยู่จำวัด 6 รูป ส่วนบ้านเรือนราษฎรก็ถูกน้ำท่วมประมาณร้อยกว่าหลังคาเรือนด้วยเช่นกัน สำหรับบ้านที่ถูกน้ำท่วมหนักก็จะเป็นบ้านที่สร้างแบบไม่มีใต้ถุน โดย อบต.วินัย ได้พาไปดูที่บ้านของ นางลำพอง แดงโสภณ อายุ 63 ปี ที่น้ำท่วมบริเวณรอบๆบ้านสูงกว่า 1 เมตร ส่วนในตัวบ้านน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัยภายในบ้านซึ่งน้ำได้ท่วมสูงประมาณ 50-60 ซม.ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ ที่มีกัน 3 ชีวิตต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก ที่อยู่-ที่นอน-ห้องสุขาถูกน้ำท่วมหมด ต้องหาโต๊ะไม้ยกขึ้นสูงเพื่อทำเป็นที่นอนชั่วคราวและคาดว่าอาจจะต้องอพยพไปสร้างเพิงพักอาศัยชั่วคราวอยู่บนถนนหากระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น
ด้านนางลำพอง แดงโสภณ บ้านถูกน้ำท่วม ได้เล่าถึงความทุกข์ยากลำบากว่าน้ำท่วมเข้ามาในบ้านเป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว ในบ้านอยู่กัน 3 คน ตา-ยาย-หลาน โดยตามีอาชีพรับจ้างแต่ช่วงนี้น้ำท่วมงานไม่มีจึงต้องลงข่ายทอดแหหาปลาเพื่อมายังชีพ ตอนนี้เดือดร้อนมากอยากวอนขอเครื่องยังชีพ-น้ำดื่ม-ข้าวสาร-ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า ที่ผ่านมาเคยได้รับแจกถุงยังชีพจาก อบต.กำแพงดิน 1 ครั้ง แล้วเท่านั้นเองซึ่งไม่เพียงพอกับการดำรงชีพที่น้ำท่วมบ้านยาวนานนับเดือนแบบนี้
เช่นเดียวกับที่วัดวังปลาทู ซึ่งมีพระจำวัดอยู่ 6 รูป ภายในบริเวณลานวัด และศาลาวัดชั้นล่างรวมถึงตามกุฏิต่างๆก็ถูกน้ำท่วมด้วยเช่นกันทำให้พระต้องช่วยกันทำสะพานเพื่อให้ญาติโยมใช้เดินเข้า-ออก เพื่อมาทำบุญและทำกิจกรรมต่างๆภายในวัดเรียกได้ว่าเดือดร้อนกันถ้วนหน้าทั้งพระและโยมของบ้านวังปลาทูในขณะนี้แล้วด้วยเช่นกัน
#น้ำท่วม #น้ำท่วมพิจิตร #แม่น้ำยม