วันที่ 14 ก.ย. 68 หลังจากที่ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้นำเสนอข่าว กรณีที่พักสงฆ์ไทยนิยมพัฒนา บ.ไทยนิยมพัฒนา ม.17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใลก้ปราสาทตาควายมากที่สุด ได้ถูกกระสุนปืนใหญ่ ที่คาดว่าจะเป็นจรวด BM 21 ของทหารกัมพูชา ยิงมาใส่จำนวน 2 ลูก เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา โดยระเบิดตกใส่ยอดต้นไม้ภายในวัดใกล้กับศาลาและกุฏิ 1 จุด และอีกลูกถูกกุฏิเอนกประสงค์ ที่สร้างเป็นห้องติดๆกันเป็นรูปตัว L ของวัดเต็มๆ ทำให้หลังคากุฏิ กำแพงห้อง และหน้าต่าง พังเสียหายทั้งแถบ จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมแต่อย่างใด เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอและสำนักพุทธศาสนา ไม่ได้มีงบประมาณในส่วนนี้ ที่จะซ่อมแซมให้กับสำนักสงฆ์ ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ของ สปก.และอยู่ระหว่างการขออนุญาติขอใช้พื้นที่ แม้จะเป็นสำนักสงฆ์ หรือวัดของหมู่บ้านไทยนิยมแห่งเดียวที่อยู่กับหมู่บ้านมานานกว่า 40 ปีแล้วก็ตาม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างประสานความร่วมมือหางบประมาณนอก หรือจากผู้ใจบุญช่วยเหลือซ่อมแซมต่อไป
โดยทาง อบต.บักได ได้ส่ง จนท.ลงพื้นที่ประเมินความเสียหายแล้วในเบื้องต้น โดยประมาณการงบประมาณก่อสร้างซ่อมแซม จำนวน 206,500 บาท หากหน่วยงาน องค์กร หรือผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือซ่อมแซมให้กับสำนักสงฆ์ไทยนิยมพัฒนา ก็สามารถสามารถติดต่อมาได้ที่หมายเลข 0611039854 พระวรจักร เขมวีโร หัวหน้าสำนักสงฆ์ไทยนิยมพัฒนา
ขณะที่นายรุจิภาส มีกุศล สมาชิกวุฒิสภา จ.สุรินทร์ พร้อมทีมงานได้ลงพื้นที่ไปรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาจากผลกระทบของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้น กับประชาชนในพื้นที่ชายแดน เพื่อนำปัญหาความเดือดร้อนต่างๆของประชาชนไปปรึกษาหารือในการประชุมวุฒิสภาต่อไป
โอกาสนี้ นายรุจิภาส มีกุศล สมาชิกวุฒิสภา จ.สุรินทร์ ได้ถือโอกาสเดินทางไปดูสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากความไร้มนุษยธรรมของกัมพูชาที่ยิงอาวุธปืนใส่บ้านเรือนประชาชน ชุมชน โรงพยาบาล โดยเฉพาะที่สำนักสงฆ์ไทยนิยมพัฒนาแห่งนี้ ซึ่ง พระวรจักร เขมวีโร หัวหน้าสำนักสงฆ์ไทยนิยมพัฒนา ก็ได้นำดูสภาพความเสียหายและ ที่หลบภัย ที่ทางพระวรจักรฯได้อำขึ้นเอง ด้วยการเจาะกำแพงใต้ถุนศาลาการเปรียญเพื่อทำเป็นห้องเข้าไปหลบภัย ช่วงที่เกิดการปะทะอีกด้วย
พระวรจักร เขมวีโร หัวหน้าสำนักสงฆ์ไทยนิยมพัฒนา เปิดเผยว่า โชคดีที่พระสงฆ์ย้ายออกจากกุฏิดังกล่าวที่ถูกยิงก่อนหน้านี้ได้เพียง 1 วันเท่านั้นก่อนที่จะถูกระเบิดตกใส่ยอดต้นไม้ใกล้กับศาลาการเปรียญและกุฏิที่อาตมาใช้ใต้ถุนหลบภัย ทำให้ปลอดภัย ทหารกัมพูชา จงใจยิงมาใส่บ้านเรือนชุมชนและวัด เพราะในพื้นที่หมู่บ้านไทยนิยมพัฒนามีตกอีกหลายจุดในวันเดียวกัน คือวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นพระสงฆ์ก็ย้ายไปจำวัดที่อื่นเนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย เหลือพระสงฆ์ในวัดเพียง 2 รูปเท่านั้น ฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ ให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาชายแดนให้จบโดยเร็ว เพราะชาวบ้านกำลังลำบาก การดำเนินชีวิตก็ไม่ปกติ อยู่อย่างหวาดผวา แม้กระทั่งวัดเองก็ไม่ค่อยมีชาวบ้านมาทำบุญ เกิดจากปัจจัยกระทบหลายอย่าง ทั้งนี้ฝากเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา หากต้องการช่วยเหลือหรืออยากมาทำบุญที่วัดชายแดนแห่งนี้ ก็สามารถเดินทางมาได้ หรือติดต่อที่อาตมาได้ อยากให้มาร่วมสร้างบุญกุศล บุญกฐินร่วมกัน รวมถึงขอฝากไปถึง สปก.สุรินทร์ ให้ช่วยเร่งพิจารณาอนุมัติให้ทางวัดได้ใช้พื้นที่เพื่อจดทะเบียนเป็นวัดที่ถูกต้องตามระเบียบกฏหมายด้วย