วันที่ 14 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 2-4 ทุ่มประชาชนในหลายพื้นที่ของ จ.สุรินทร์ พบโดรนปริศนาที่คาดว่าเป็นของทหารกัมพูชา บินเข้ามาสอดแนมในหลายพื้นที่หลายสิบลำ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.พนมดงรัก ที่ชาวบ้านพบบินต่ำหลายจุด ได้ยินเสียงโดรนบินชัดเจน พร้อมกับมีไฟกระพริบหลายสีให้เห็น โดยพบบินเข้ามาจำนวนมากผิดปกติในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยชาวบ้านสามารถใช้มือถือถ่ายภาพแสงกระพริบได้หลายเครื่อง แม้จะถ่ายไม่ได้ชัดเจนนักก็ตาม  โดยชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดระแวง ว่าทหารกัมพูชาจะใช้โดรนบินมาหย่อนระเบิดใส่ ต่างนอนไม่หลับในระยะนี้ อยากให้ทหารและรัฐบาลจัดการให้เด็ดขาด ให้จบสิ้นสุดโดยเร็ว เพราะต้องอยู่อย่างหวาดผวา ชาวบ้านพร้อมอพยพทุกเมื่ออีกด้วย

นางสาวราตรี งอกงาม อยู่บ้านเลขที่ 182 ม.17 บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรักฯซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับปราสาทตาควาย บอกว่า ได้ยินเสียงโดรนบินและเห็นไฟของโดรนกัมพูชาบินหลายลำผิดปกติ ช่วงเวลาประมาณสามทุ่ม  ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้มักจะพบเห็นช่วงหัวค่ำ เป็นไฟกระพริบสีเขียวสีแดงหลายสี ผิดปกติช่วงที่มีข่าวทหารกัมพูชาเข้ามาประชิดชายแดนจำนวนมาก ชาวบ้านอยู่อย่างหวาดระแวง ยางก็กรีดไม่ได้เหมือนก่อน ปกติไปกรีดยางเที่ยงคืน ช่วงนี้ไปตีสี่ตีห้า ขาดรายได้ไปเยอะ อยากให้แม่ทัพภาคที่ 2 มาจัดการให้จบๆที่ท่านเคยสัญญาไว้จะจัดการชายแดนให้จบก่อนเกษียณ ชาวบ้านรอไม่ไหว้แล้ว ยอมอดอยาก ขอให้จัดการชายแดนให้จบเร็วๆ โดยเฉพาะปราสาทตาควายให้เอาคืนมาให้ได้ทั้งหมด รวมทั้งนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูลด้วย บอกว่าจะมาจัดการปัญหาชายแดน ที่บอกว่าจะไม่ให้เสียแผ่นดินแม้แต่ตางรางเซนติเมตรเดียว ก็ให้รีบมา ชาวบ้านชายรอไม่ไหวแล้ว ชาวบ้านมีความต้องการแบบเดียวกันคือให้จัดการปัญหาเขตแดนชายแดนเป็นอันดับแรก  ส่วนการเปิดด่านก็ยังมาอยากให้เปิด ให้จัดการชายแดนก่อน และสงสารทหารที่มาอยู่ในป้านานแล้ว  เขมรเชื่อใจไม่ได้   ส่วนกรณีเรื่องของปากท้องและแผ่นดินสิ่งไหนสำคัญกว่านั้น ชาวบ้านต้องเอาแผ่นดินก่อนปากท้อง ยอมอดอยากก่อน ทุกวันนี้ก็อดอยู่แล้ว ให้รีบจัดการเรื่องแผ่นดินให้จบโดยเร็วด้วย ชาวบ้านพร้อมอพยพ