หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแปดริ้วที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะการให้พรในเรื่องโชคลาภ การงาน สุขภาพ และการเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ผู้ที่มาขอพร แล้วสมหวังมีมาก และมีการบอกต่อนปากต่อปาก การได้มากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อโสธรจึงเป็นเสมือนการเติมเต็มกำลังใจและแสวงหาความเป็นสิริมงคลในชีวิตได้เป็นอย่างดี
เมื่อสมหวังตามที่ปรารถนาแล้ว ผู้คนก็จะกลับมาด้วยการ แก้บนด้วยไข่ต้ม และ การรำแก้บน ซึ่งกลายเป็นภาพที่คุ้นตาและเป็นสัญลักษณ์ของวัด ทำให้ผู้คนเดินทางมาสักการะและแก้บนอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นของวัดแห่งนี้นอกจากความงดงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว ยังคงอยู่ที่ พลังแห่งศรัทธาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ดังจะเห็นได้จากผู้คนนับหมื่นที่หลั่งไหลมาในแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดและวันสำคัญทางศาสนา
นอกจากนี้ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ยังมีสิ่งน่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระอุโบสถหลังใหม่ ที่มีสถาปัตยกรรมวิจิตรตระการตา ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโสธรองค์จำลอง รวมถึง ศาลาการเปรียญ และ พระอุโบสถหลังเก่า ที่ยังคงความขลังและบรรยากาศอันสงบ นอกจากนี้ บริเวณ ท่าน้ำ ยังมีกิจกรรมปล่อยปลาให้ร่วมทำบุญอีกด้วย
นอกจากคนไทยแล้วยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยสูงถึง 7,000 คนต่อวันในช่วงวันหยุดยาว สะท้อนให้เห็นว่าศรัทธาที่มีต่อองค์หลวงพ่อโสธรนั้นหยั่งรากลึกเกินกว่าจะหวั่นไหวกับความไม่สะดวกในการเดินทาง และยังเป็นบทพิสูจน์ถึงความผูกพันที่คนไทยมีต่อศาสนาพุทธอย่างแท้จริง
ด้วยจำนวนผู้ศรัทธาที่หลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้วัดหลวงพ่อโสธรมี ยอดเงินบริจาคจำนวนมากมายมหาศาล จนมีฐานทางการเงินที่มั่นคง มีข่าวรายงานว่ายอดเงินฝากในบัญชีธนาคารมากกว่า 100 บัญชี รวมกันแล้ว ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท โดยเงินเหล่านี้ล้วนมาจากแรง "ศรัทธาของญาติโยม" และถูกแบ่งบริจาค ตามวัตถุประสงค์ของตู้บริจาค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าซ่อมบำรุงต่างๆ
จะเห็นได้ว่ารายได้ต่อวันของวัดในช่วงวันหยุดนั้นสูงถึง 300,000-500,000 บาท และอาจสูงถึง 1 ล้านบาทในช่วงเทศกาลใหญ่ ซึ่งการหลั่งไหลมาของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ยังก่อให้เกิด เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในช่วงวันหยุดยาว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาให้กับจังหวัดฉะเชิงเทราอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม วัดหลวงพ่อโสธร ซึ่งเป็นเสมือนหัวใจของพุทธศาสนิกชน ได้ถูกคลื่นข่าวที่สร้างความสั่นคลอนถาโถมเข้าใส่ โดยเริ่มจากกรณีของ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ที่ได้ ลาสิกขาไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 หลังตกเป็นข่าวพัวพันกับ "สีกากอล์ฟ" โดยระบุว่าเป็นการลาสิกขาเพื่อ "ดำรงไว้ซึ่งความงดงามแห่งหมู่สงฆ์" และภายหลังได้เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ ปปป. ยอมรับว่าถูกสีกา ก. หลอกลวง
และล่าสุด พระเทพภาวนาวชิรคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ก็ถูกร้องเรียนผ่านสื่อออนไลน์เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงประเด็น "ทรัพย์สินของวัดและเรื่องสีกา" ซึ่งถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นบททดสอบสำคัญของวงการสงฆ์และศรัทธาของประชาชน การดำเนินการตรวจสอบอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมจะเป็นกุญแจสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนา และเรียกคืนความเชื่อมั่นของพุทธศาสนิกชนกลับคืนมาอย่างแท้จริง
#วัดโสธร #หลวงพ่อโสธร #ข่าววัดโสธร #ข่าวฉาววงการสงฆ์ #ศาสนาพุทธ #ฉะเชิงเทรา #ข่าวพระสงฆ์ #ศรัทธา #เงินบริจาค