เมื่อวันที่ 12-13 กันยายน 2568 สถานการณ์น้ำเหนือ ที่เขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ตำบลท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายหมู่บ้าน

โดยเฉพาะ บ้านวัดราษฎรศรัทธาธรรม หมู่ 6 ตำบลท่าซุง ระดับน้ำสูงขึ้นจนท่วมถนนสายหลักบางจุด รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ทำให้ชาวบ้านต้องใช้เรือแทน นอกจากนี้ ชาวบ้านยังเร่งย้ายสิ่งของ เครื่องใช้ส่วนตัว รถยนต์ และเครื่องมือการเกษตรขึ้นไว้บนที่สูง

ชาวบ้านระบุว่า น้ำปีนี้มาเร็วผิดปกติ และท่วมสูงภายในเวลา 24 ชั่วโมงเพิ่มกว่า 30 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำและบ้านเรือนได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

ข้อมูลจาก กรมชลประทาน ระบุว่า วันที่ 12 กันยายน 2568 ระดับน้ำเจ้าพระยาไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 เมืองนครสวรรค์ 2,101 ลบ.ม./วินาที และระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,950 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรังในจังหวัดอุทัยธานีมีระดับน้ำเพิ่มสูง

ขณะนี้ ประชาชนได้รับผลกระทบ 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน 108 ครัวเรือน ได้แก่

ตำบลท่าซุง 6 หมู่บ้าน 28 ครัวเรือน

ตำบลเกาะเทโพ 6 หมู่บ้าน 68 ครัวเรือน

ตำบลน้ำซึม 2 หมู่บ้าน 12 ครัวเรือน

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโครงการชลประทาน เร่งแจกถุงยังชีพ อาหารเวชภัณฑ์ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และนำเครื่องจักรกลกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำในคลองโพธิ์

ทั้งนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี แจ้งเตือนให้ประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ ตำบลหาดทนง ตำบลเกาะเทโพ ตำบลสะแกกรัง ตำบลน้ำซึม และตำบลท่าซุง เฝ้าระวังน้ำท่วมและติดตามข้อมูลข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง