“ลาออกกะทันหัน! “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ทิ้งเก้าอี้หัวหน้าประชาธิปัตย์ เปิดฉาก “วิบากกรรม” พรรคเก่าแก่ที่อนาคตยังเต็มไปด้วยคำถาม”

การเมืองไทยไม่เคยเงียบสงบ และครั้งนี้ถึงคราว “ประชาธิปัตย์” พรรคเก่าแก่ที่สุดของไทย ต้องเจอแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ หลังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคกะทันหันเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาโดยอ้างเหตุผลเรื่อง “ปัญหาสุขภาพ” ที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่

และการลาออกที่เกิดขึ้นฉับพลัน มีผลทันที โดยไม่แจ้งต่อ ส.ส. หรือกรรมการบริหารพรรคล่วงหน้า ได้กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ทั้งสมาชิกพรรคและสังคมตั้งคำถามถึงเบื้องหลังที่แท้จริง

แม้พรรคจะรีบตั้ง นายประมวล พงศ์ถาวราเดช รองหัวหน้าพรรค ขึ้นรักษาการแทน และโฆษกพรรคอย่าง นางสาวเจนจิรา รัตนเพียร จะยืนยันว่าทั้งหมดเป็นเรื่องสุขภาพล้วน ๆ ขณะที่ฝ่ายบริหารอย่าง นายธนิตพล ไชยนันทน์ ก็ย้ำว่าทุกขั้นตอนทำถูกต้อง แต่ความจริงที่ปรากฏคือบรรยากาศภายในพรรคเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หลายคนไม่ทันตั้งตัว และมองว่านี่ไม่ใช่เพียงการถอยเพราะร่างกาย แต่เป็นการเมืองที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง

สื่อมวลชนหลายสำนักตั้งข้อสังเกตตรงกันว่า การลาออกครั้งนี้อาจเป็นการ “เปิดทาง” ให้กลุ่มอื่นเข้ามาคุมเกม หรือคืนพื้นที่สร้างโอกาสให้ประชาธิปัตย์สามารถเลือกทางเดินใหม่

สำหรับผู้ติดตามการเมืองที่เคยเห็นพรรคประชาธิปัตย์รุ่งเรืองในอดีต ย่อมรับรู้ได้ว่าวันนี้ประชาธิปัตย์กำลังเจอ “วิบากกรรม” หนักที่สุดครั้งหนึ่ง

ผลการเลือกตั้ง 2566 ทำให้พรรคเสียฐานเสียงดั้งเดิมในภาคใต้และกรุงเทพฯ อย่างรุนแรง การเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคหลายครั้งไม่สามารถดึงศรัทธาประชาชนกลับมาได้ การทำงานในสภาก็ถูกบดบังด้วยพรรคการเมืองรุ่นใหม่ จนบทบาทของพรรคดูเลือนราง และล่าสุดการลาออกของนายเฉลิมชัยก็ยิ่งตอกย้ำว่าพรรคกำลังเผชิญวิกฤติศรัทธาทั้งจากภายในและภายนอก

ทว่า การเมืองแบบไทยๆ ไม่มีคำว่าถึง “ทางตัน” เสียทีเดียว ในวิกฤติอาจซ่อนโอกาส หากประชาธิปัตย์สามารถเปลี่ยนความสั่นคลอนครั้งนี้ให้เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูป เปิดทางให้คนรุ่นใหม่มีพื้นที่จริง ๆ และนำเสนอนโยบายที่ตรงใจประชาชน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง พรรคอาจมีโอกาสกู้ศรัทธาที่สูญหายไปได้

แม้จะเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก แต่หากเลือกจะปรับตัว “วิบากกรรม” ครั้งนี้ก็อาจกลายเป็นแรงผลักดันให้พรรคประชิปัตย์กลับมามีที่ยืนบนเวทีการเมืองไทยอีกครั้ง

ถึงนาทีนี้พรรคประชาธิปัตย์อาจถูกมองว่าอ่อนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยก็พิสูจน์มาแล้วหลายครั้งว่า ไม่มีใครอยู่ยงคงกระพัน และไม่มีใครดับสูญอย่างถาวร หากประชาธิปัตย์กล้าเปลี่ยนเพื่ออนาคต นี่อาจไม่ใช่จุดจบ หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของพรรคเก่าแก่ที่กำลังดิ้นรนท่ามกลางคลื่นการเมืองลูกใหญ่ที่สุด 

 

#การเมืองไทย #พรรคประชาธิปัตย์ #เฉลิมชัยศรีอ่อน #หัวหน้าพรรคลาออก #ข่าวการเมือง #วิเคราะห์การเมือง