บทบาทของ “เสธ.นัส” พล.อ. มนัส จันดี เสนาธิการทหาร โดดเด่นขึ้นมา ในช่วง 2 เดือนสุดท้าย ก่อนจะเกษียณ จากบ้านหนองจาน-การสร้างรั้วชายแดน มาถึงการส่งสัญญาณค้านการเปิดด่าน

ด้วยการส่งเสียงจาก ยอดภูมะเขือ  สะกิดวงประชุม GBC ที่ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์   รักษาการ รมว.กลาโหม ในรัฐบาลเพื่อไทย และ เป็นว่าที่ รมว.กลาโหม ในรัฐบาลใหม่ ของ นายกฯอนุทิน

ที่มี 5 ข้อตกลง ถอนอาวุธหนัก แต่ยังไม่ถอนทหาร เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ปักปันเขตแดน บ้านหนองจาน - เปิดด่าน บางจุด ในพื้นที่ ชายแดนจันทบุรี-ตราด หลัง ญี่ปุ่น ขอมา

“ประชุม GBC มีข้อตกลง ออกมา เขาควรปฏิบัติตามนั้น ไม่อยากให้เป็นแค่เอกสาร ข้อความ แล้วก็เซ็นออกมาแค่นั้น  แต่ไม่ได้ทำตามนั้นเลย”

“เขมรเป็นฝ่ายเคลื่อนย้ายอาวุธ เข้ามาก่อน ไทยเราไม่เคยรุกราน หากเขมรต้องการแสดงความจริงใจ ก็ควรต้องถอนกลับไป ก็แค่นั้น เราให้คำมั่นว่า เราไม่ไปติดตามมันหรอก ทุกอย่างก็จะอยู่ด้วยความสงบ แต่ถ้ามันไม่ถอน กำลังกลับ  อย่างอื่น ก็ไม่ควรมาพูดอะไรหรอก  เปิดด่าน ปิดด่าน  ไม่มีประโยชน์  ถ้ามันไม่แสดงความจริงใจต่อกัน” พล.อ. มนัส  กล่าว

นับเป็นบทบาท ที่เป็นดัชนีชี้วัด ความรู้สึกของทหารในกองทัพ ต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาล ตั้งแต่ ปลายยุค “แพทองธาร”  จนมา ยุค “ภูมิธรรม” รักษาการ  และมาช่วงสูญญากาศ รอรัฐบาลใหม่ ของ อนุทิน ชาญวีรกูล

เพราะก่อนหน้านี่ พล.อ.มนัส  ไปลุยหน้าแนว บ้านหนองจาน -หนิงหญ้าแก้ว ที่ สระแก้ว ประกาศ ว่า ที่นี่คือ แผ่นดินไทย พร้อมชี้ว่า แนวลวดหนาม ยางรถยนต์ เราต้องขยับไปให้ถึง เส้นน้ำเงิน  ดินแดนไทย

พร้อมประกาศ จะสร้างรั้วชายแดน ในพื้นที่ คลองลึก จนถึง บางส่วนของ บ้านหนองจาน ระยะทาง ราว 20 กม. เฉพาะที่ เขตแดนชัดเจนก่อน 

“ผมจะเริ่มสร้าง ก่อนที่ผมจะเกษียณ ผมจะเริ่มต้น จะนับ 1 ให้ก่อน  มีงบฯไว้แล้ว จากนั้น ก็ทำต่อกันไป”  พล.อ.มนัส ระบุ

พล.อ.มนัส  เป็นเพื่อนสนิท เตรียมทหาร 14 ของ “ผบ.อ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด ที่กำลังจะเกษียณ 30 ก.ย. 2568 นี้ พร้อมกัน

พล.อ.มนัส  ถือเป็น “เสธ.คู่ใจ” พล.อ.ทรงวิทย์ ที่มอบหมายอำนาจหน้าที่ ในเรื่องสำคัญต่างๆ เพราะเชื่อมือ เสธ.ทหาร  ซึ่งเป็น ทหารม้า สายบู๊  ที่เคยรับราชการในพื้นที่ชายแดนตะวันออก ปราจีนบุรี สระแก้ว

กล่าวกันว่า พล.อ.มนัส คือ ตัวแทนของ พล.อ.ทรงวิทย์  ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะ เรื่องไทย-กัมพูชา   รวมทั้ง ศอ.ปชด. ที่ นายกฯแพทองธาร เคยตั้งขึ้นมา ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์  สแกมเมอร์ ตั้งแต่ ชเวโก๊กโก่  ของ เมียนมา  และมา ปอยเปต  กัมพูชา

ที่สำคัญ พล.อ.มนัส เป็นผู้ทำหนังสือ เสนอ สมช.ในการให้ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต แต่ไม่ได้มีการประชุม สมช ในช่วงนั้น จนฝ่ายเขมร ชิงประกาศตัดไฟ ตัดเน็ตก่อน และประเด็นนี้ ถูกศาลรัฐธรรมนูญ นำมาใช้ในการตัดสินคดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซน แห่งกัมพูชาด้วย

พล.อ.มนัส รับหน้าที่ เป็นพ่อบ้านของทัพไทย เป็นที่รู้กันดีว่า มีความเข้มงวด เอาจริงเอาจังเช้าๆ จะเดินตรวจ บก.ทัพไทย ด้วยตนเอง และมีการสุ่มตรวจหน่วย

ในช่วงการสู้รบกับกัมพูชาเนื่องจาก สมช. มอบหมายให้ พล.อ.ทรงวิทย์ เป็น ผู้อำนวยการยุทธ์ อีกทั้ง ผบ.ทหารสูงสุด ยังเป็น ผู้บัญชาการทหาร (ผบท.) อีกด้วย โดยมี เสนาธิการทหาร เป็น เลขาฯ จึงทำให้ พล.อ.มนัส มีบทบาทสำคัญ เคียงข้าง พล.อ.ทรงวิทย์

อีกทั้ง พล.อ.มนัส จะลงพื้นที่ชายแดน ด้วยตนเอง โดยเฉพาะหลังการสู้รบที่ ทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา รับหน้าที่ ไปสร้างถนน ชายแเดน เส้นทางส่งกำลังบำรุง ส่วนกรมสื่อสารทหาร ไปติดตั้ง กล้องวงจรปิดให้ พล.อ.มนัส เป็นคนเร่งประสานให้ และลงไปตรวจด้วยตนเองหลายครั้ง

พล.อ.มนัส คือ ผู้มีบทบาท เบื้องหลัง “เสธเบิร์ด” ว่าที่ พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกทัพไทย ในการออกสื่อ ด้วยคำพูดที่เข้มข้น โดยได้ไฟเขียวจาก เสธ.ทหาร ที่เป็น ทหารม้าแนวบู๊ด้วยกัน

อย่างไรก็ตามหลัง อนุทิน เปิดตัว พล.อ.ณัฐพล เป็น ว่าที่ รมว.กลาโหม ในครม.อนุทิน 1 พล.อ.ณัฐพล  กฺถูกมองว่า กำลังถูกท้าทาย จากกองทัพ หรือไม่ จากบทบาทการแสดงออกของ พล.อ.มนัส 

เพราะบทบาทและผลงานของ พล.อ.ณัฐพล ในรัฐบาลแพทองธาร ในการแก้ปัญหาเขมร ไม่เป็นที่พอใจของ ทหารมากนัก และ ในนาม ผอ.ศบ.ทก.พล.อ.ณัฐพล ก็ไม่สามารถ ทำตามที่ ฝ่ายทหารคาดหวัง อีกทั้ง พล.อ.ณัฐพล ออกแนว สายพิราบ เน้นการเจรจา และ ดึงๆฝ่ายทหารหลายเรื่อง

เมื่อมีชื่อเป็นว่าที่ รมว.กลาโหม ในครม.อนุทิน ท่าทีของ เสธ.ทหาร จึงถูกตีความว่า ไม่ต้องการ พล.อ.ณัฐพล เป็น รมว.กลาโหม คนใหม่หรือไม่

ด้วยเพราะ แคนดิเดต รมว.กลาโหม ในครั้งนี้ มีหลายคน ทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ อนุทิน ยกโควตา กลาโหม ให้พรรคกล้าธรรมไปแล้ว และ ได้ไฟเขียวจาก ผู้ใหญ่สายขั้วอนุรักษ์ฯ บางคน ไปแล้วแต่กลับเจอแรงต้าน จากบรรดาลุงๆทหารเก่า

ทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ ที่ไม่มีวันลืมว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยทำอะไรกับตนเองไว้ หรือแม้แต่ กระแสข่าวว่าลุง อีกคน ก็ไม่แฮปปี้

โดยที่บรรดาลุงๆ เสนอตัวเลือกให้ อนุทิน ตัดสินใจ ทั้ง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกลาโหม คนที่60  สายตรงบ้านป่าฯ และ พล.อ.ณัฐพล สายตรงอีกหนึ่งลุง และเคยเป็น รมช.กห.ในโควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ มาแล้ว

ขณะที่ บรรดานายทหารสายสีน้ำเงิน ที่สนิทสนมคบหานายอนุทิน มายาวนานนับสิบๆปี ต่างเสนอชื้อ “บิ๊กไก่” พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม อดีต เลขาฯ สมช.นักรบเหรียญรามาฯ แกนนำ ตท.22 มาเป็นรมว.กลาโหม

แต่ด้วยหลายเหตุผล ทำให้ อนุทิน เลือก พล.อ.ณัฐพล เป็นรมว.กลาโหม

ก่อนที่จะเจอทัวร์ลงอย่างหนัก เมื่อไปเจรจา GBC กับเขมร ที่เกาะกงแล้วยอมเปิดด่าน ที่จันทบุรี-ตราด ให้รถสินค้าเข้าออกเท่านั้น แม้ห้ามคนข้ามก็ตาม แม้ พล.อ.ณัฐพล จะอ้างประเทศที่ 3 อย่างญี่ปุ่น ขอร้องมาก็ตามจนทำให้ เก้าอี้ว่าที่ รมว กลาโหม สั่นสะเทือน ไปถึง อนุทินด้วย

ขณะที่ยังมีความพยายาม ในการผลักดันให้ พล.อ.ณัฐ และ พล.อ.สุพจน์ เป็น รมว.กลาโหม กันอยู่อย่างเข้มข้น