กล้องวงจรปิดจับภาพ จยย.ย้อนศรชนคนข้ามถนนแล้วหลบหนี

วันที่ 12 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายสิทธิชัย ชัยยะ อายุ 39 ปี ว่าเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา เวลา 20.12 น.ตนเองได้ไปเติมเน็ต ที่ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 50 บาท ซึ่งขณะที่กำลังเดินข้ามถนนเพื่อกลับบ้าน บริเวณถนนพหลโยธิน ม.11 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรีได้ถูกรถจักรยานยนต์ ขี่ย้อนศร ซึ่งขับขี่มาด้วยความเร็ว พุ่งชนตนเองจนล้มลง จนได้รับบาดเจ็บ ล้มลงแน่นิ่งไปโดยไม่มีการจอดรถลงมาดูแต่อย่างได แล้วขี่หลบหนีไปด้วยความเร็ว ซึ่งตนเองได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.พระพุทธบาท แต่เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้าเนื่องจากว่าเป็นเวลามืด และไม่ทราบยี่ห้อรถ และหมายเลยทะเบียน มีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่า ขณะที่นายสิทธิชัย กำลังเดินเพื่อที่จะข้ามถนน จากนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ ขี่ย้อนศรมาพุ่งชนอย่างแรง ทำให้ตัวนายสิทธิชัย ล้มลง จากนั้นคนขี่จักรยานยนต์ที่พุ่งชน ได้เสียหลักเล็กน้อย และขับขี่หลบหนีไป ส่วนตัวนายสิทธิชัย พยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นมา และไปล้มอยู่บริเวณกลางถนนอีก โชคดีที่รถวิ่งผ่านมาไม่ชนซ้ำอีก จากนั้นก็พยายามลุกขึ้นและไปล้ม สลบอยู่บนเกาะกลางถนน

จากการสอบถามนายสิทธิชัย ชัยยะ เล่าว่า ขณะที่ตนเองกำลังจะเดินข้ามถนน เพื่อกลับบ้านที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับร้านสะดวกซื้อที่ตนเองเข้ามาเติมเน็ต จากนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ที่ขับย้อนศรมา พุ่งชนตนเองอย่างแรงทำให้หัวตนเองฟาดพื้น และได้รับความมึนงงจนไม่สามารถตั้งสติตนเองได้ ตนเองพยามยามเอาตัวเองออกจากถนนให้ได้ และเมื่อมาถึงเกาะกลางถนนตนเองได้วูบลงอีกครั้ง ซึ่งตนเองคิดว่าถ้านอนอยู่กลางถนนจะต้องถูกรถชนซ้ำอีกครั้งแน่นอน เนื่องจากบริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ซึ่งตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และระบบไปทั่วตั้งแต่ศีรษะยันต้นคอ หันซ้าย ขวา ไม่ค่อยได้ ซึ่งขณะเกิดเหตุตนเองไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใครๆเลย ต้องพยายามช่วยตนเองอย่างเดียว ทั้งรองเท้าและ โทรศัพท์มือถือของตนเองกระเด็นไปคนละทิศ คนละทาง ซึ่งตอนนี้ตนเองได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พระพุทธบาทไว้แล้ว เนื่องจากว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ได้จอดรถมาช่วยเหลือตนเองบ้างเลย  จึงอยากให้ทางผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาดูแลตนเองบ้างหรือจอดรถลงมาดูว่าตนเองได้รับบาดเจ็บอย่างไร แต่กลับขับรถหลบหนีไป ถ้าลงมาช่วยดึงตนเองออกจากถนนซักหน่อยเพื่อไม่ให้รถที่ขับตามมาชนตนเองซ้ำ ถ้าตนเองหมดสติไปนี่ตนเองจะต้องเสียชีวิตเป็นแน่ จึงอยากให้คนขับรถจักรยานยนต์กลีบมาขอโทษตนเองก็ยังดี

นายสิทธิชัย กล่าวเสริมว่าตนเองเคยขับรถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุ กะโหลกร้าวมาครั้งหนึ่งเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ยังได้รับความมึนงงที่หัวอยู่เลย