สำรวจพบกว่า 4 ใน 10 พนักงานเอกชนไทยเคยเผชิญการคุกคามทางเพศ – ผู้หญิง กลุ่มหลากหลายเพศ และวัยทำงานตอนต้นเสี่ยงสูงสุด
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัวโครงการพัฒนาหลักสูตรและคู่มือแนวปฏิบัติ เพื่อสร้างมาตรการป้องกันและจัดการปัญหาความรุนแรงบนฐานเพศและการคุกคามทางเพศในสถานประกอบการเอกชน โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่มาและความจำเป็น
แม้ประเทศไทยมีกฎหมายสำคัญ อาทิ พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน แต่สถานประกอบการเอกชนจำนวนมากยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และแนวทางปฏิบัติที่เป็นระบบ ขณะที่มาตรฐานแรงงานระดับโลก โดยเฉพาะอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO C190) กำหนดให้องค์กรต้องสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและปราศจากการคุกคาม ซึ่งประเทศไทยกำลังเตรียมการศึกษาเพื่อรับรองอนุสัญญานี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับสถานประกอบการ โครงการจึงได้พัฒนา หลักสูตรออนไลน์ (E-learning Application: MU-ZeroGBV in Workplace) เพื่อให้สถานประกอบการนำไปใช้อบรมพนักงานได้ทันที
“ความรุนแรงบนฐานเพศไม่เพียงทำลายศักดิ์ศรีของพนักงาน แต่ยังสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและชื่อเสียงต่อองค์กร”
— รองศาสตราจารย์ ดร. สุชาดา ทวีสิทธิ์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล (หัวหน้าโครงการ)
ผลการสำรวจสถานการณ์ปัจจุบัน
โครงการเก็บข้อมูลจาก 67 สถานประกอบการ ใน 5 อุตสาหกรรมส่งออก ได้แก่ ยานยนต์ อาหารส่งออก สิ่งทอ อิเล็กโทรนิกส์/เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งโรงแรม/ท่องเที่ยว โดย สัมภาษณ์พนักงาน 603 คน พบว่า:
• 44.4% ของพนักงานเคยถูกละเมิดหรือคุกคามทางเพศ
• กลุ่มหลากหลายเพศ เผชิญการคุกคามสูงสุดถึง 60.2%
• ผู้หญิงเผชิญการคุกคาม 45.9% และผู้ชาย 33.9%
• กลุ่มอายุ 20–24 ปี เป็นช่วงวัยที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุด (57.6%)
• พฤติกรรมที่พบบ่อย ได้แก่ การล้อเลียนรูปร่างหน้าตา (27.2%) การแซวหรือหยอกล้อส่อทางเพศ (16.4%) การถูกลูบคลำแตะเนื้อต้องตัว (9.5%) และคำพูดแทะโลม (9.1%)
ด้านมาตรการภายในองค์กร
• เกือบ ครึ่งหนึ่ง (45.4%) ของพนักงานบอกว่าสถานประกอบการที่ตนทำงานอยู่ไม่มีมาตรการป้องกันเรื่องนี้ที่ชัดเจน
•41.6% ของพนักงานบอกว่าสถานประกอบการที่ตนทำงานอยู่ไม่เคยจัดการอบรมหรือรณรงค์ เรื่องนี้แก่พนักงาน
• พนักงานผู้ที่เคยถูกละเมิดในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่เลือก หลีกเลี่ยงผู้กระทำ (49.6%) มากกว่าการร้องเรียนผ่านกลไกที่มีอยู่
• ข้อมูลเชิงคุณภาพชี้ว่าหากมีการรายงานเหตุการณ์ละเมิดในเรื่องนี้ สถานประกอบการจัดการปัญหานี้โดยการไล่ออก ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ทำให้ผู้ถูกกระทำถูกข่มขู่จากผู้กระทำ และรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะแจ้งเหตุหรือร้องทุกข์
ผลลัพธ์และเป้าหมายโครงการ
เพื่อจัดการรับมือกับปัญหาความรุนแรงบนฐานเพศและการคุกคามทางเพศในที่ทำงานภาคเอกชน โครงการได้พัฒนา หลักสูตรออนไลน์ (E-learning Application: MU-ZeroGBV in Workplace) ซึ่งมีเนื้อหาความรู้ และเป็น คู่มือแนวปฏิบัติ สำหรับองค์กรภาคเอกชน โดยมีจุดเด่นคือ
• โมดูลการเรียนรู้ 9 บท ครอบคลุมตั้งแต่ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความรุนแรงและการคุกคามทางเพศ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง การสร้างวัฒนธรรมความยินยอม สำหรับพนักงาน ไปจนถึงบทบาท HR และผู้บริหาร
• เครื่องมือ “ตารางประเมินความเสี่ยงแบบโต้ตอบ” ที่ช่วยให้พนักงานสามารถประเมินสถานการณ์ของตนเองและรับคำแนะนำอัตโนมัติ
• ช่องทางร้องเรียนในระบบออนไลน์ รวมทั้งข้อมูลระบบการช่วยเหลือทั้งภายในและภายนอกองค์กร
โครงการตั้งเป้ารณรงค์ให้ ไม่น้อยกว่า 200 สถานประกอบการ นำหลักสูตรออนไลน์นี้ไปใช้จริง เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดภัย ปราศจากการทำความรุนแรงบนฐานเพศและการคุกคามทางเพศ เพราะโครงการเชื่อว่า “การลงทุนด้านการป้องกัน GBV คือการลงทุนด้านความยั่งยืนด้านธุรกิจ ทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนชื่อเสียงและภาพลักษณ์ขององค์กร”
โครงการนี้สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยมหิดลในการบูรณาการวิชาการกับการพัฒนาเชิงนโยบาย เพื่อยกระดับมาตรฐานแรงงานไทยสู่ความเป็นสากล ตอบโจทย์ทั้งมิติสิทธิมนุษยชนและความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจโลก