เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 นายประภาศ คงเอียด กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) แถลงข่าวผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในเขตพื้นที่ภาค 4 เปิดเผยกรณี ป.ป.ช.ภาค 4 ได้ เฝ้าระวังงบประมาณมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 โครงการบิ๊กอีเวนต์ 2,500 ล้านบาท โดยประเทศไทยได้รับอนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ให้เป็นเจ้าภาพยื่นประมูลสิทธิ์การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ณ จังหวัดอุดรธานี (ระดับ B) และจังหวัดนครราชสีมา (ระดับ A1) โดยมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติกรอบงบประมาณ 2,500 ล้านบาทสำหรับโครงการของจังหวัดอุดรธานี และในวันที่ 8 มีนาคม 2565 สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ได้รับรองให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 การลงนามสัญญาเป็นเจ้าภาพอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 ระหว่าง AIPH กับฝ่ายไทย
งานมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึง 14 มีนาคม 2570 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญในแนวคิด "ความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต : สายสัมพันธ์แห่งผู้คน สายน้ำและพืชพรรณ สู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน" (Diversity of Life, connecting people, water and plants for sustainable living)
ทั้งนี้ โครงการมหกรรมพืชสวนโลกมีงบประมาณรวม 2,500 ล้านบาท แบ่งความรับผิดชอบหลักออกเป็นหลายส่วน ได้แก่ การออกแบบ Master Plan และ Theme, การควบคุมงานก่อสร้าง, การจัดตกแต่งภูมิทัศน์ โครงสร้างพื้นฐานและอาคาร, การบริหารจัดการ ประชาสัมพันธ์และกิจกรรม รวมถึงค่าลิขสิทธิ์และการตรวจสอบจาก AIPH ในส่วนของการออกแบบ Master Plan และ Theme ซึ่งใช้งบประมาณ 68.12 ล้านบาท ประสบปัญหาความล่าช้าอย่างมาก โดยการจัดซื้อจัดจ้างครั้งแรกถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 เนื่องจากมีผู้ยื่นอุทธรณ์
แม้จะมีการดำเนินการใหม่และลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 แต่ Master Plan ฉบับสมบูรณ์มีการส่งมอบให้กรมวิชาการเกษตรเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 และมีการโอนลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ต่อมามีการปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและข้อเสนอแนะของ AIPH ที่ต้องการเร่งงานก่อสร้างและเน้นการปลูกต้นไม้ โดยลดงบประมาณงานก่อสร้างอาคารและภูมิทัศน์จากเดิม 1,811 ล้านบาท ลงเหลือ 1,011 ล้านบาท และนำส่วนต่าง 800 ล้านบาท ไปเพิ่มในส่วนของพืชพรรณ ต้นไม้ และการบำรุงรักษา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานว่าการปรับลดนี้ไม่ได้กระทบต่อพื้นที่ใช้สอย โครงสร้างและความ
แข็งแรงของอาคาร โครงการนี้ต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคสำคัญ หลายประการ ประการแรกคือ ความล่าช้าในการออกแบบผังแม่บท (Master Plan) ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 55.7 ล้านบาท กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างครั้งแรก ถูกยกเลิกเนื่องจากมีผู้ยื่นอุทธรณ์ ทำให้ต้องดำเนินการใหม่และส่งผลให้ล่าช้า
อีกทั้งยังมีประเด็นความสงสัย จากสื่อมวลชนและภาคประชาชนเกี่ยวกับกรณีการจัดจ้างออกแบบผังแม่บท โดยมีการแก้ไขเอกสารข้อกำหนด (TOR) ให้คุณสมบัติลดลงและเชิญบริษัทเข้าร่วมเสนอน้อยลง นอกจากนี้การดำเนินงานต้องเผชิญกับระยะเวลาที่กระชั้นชิด โดยมีเวลาเพียงประมาณ 1 ปีเศษในการก่อสร้างอาคารและภูมิทัศน์มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างอาคารและภูมิทัศน์มีกำหนดแล้วเสร็จเพียง 3 เดือนก่อนเปิดงานในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ในส่วนของการปรับสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำยังประสบปัญหาดินไม่สมบูรณ์และดินเค็ม ความกังวลยังรวมถึงผลกระทบต่อปริมาณน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาของหมู่บ้าน และความเสี่ยงต่อน้ำท่วมในพื้นที่ชุ่มน้ำ การมีคณะทำงานที่ซับซ้อนหลายชุดและการแบ่งอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบที่ไม่ชัดเจนระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นปัญหา
นายประภาส กล่าวต่อว่า การเฝ้าระวังงบประมาณโดย สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้เข้าติดตามความคืบหน้าโครงการและ เฝ้าระวังการใช้จ่ายงบประมาณตั้งแต่ต้น เนื่องจากเป็นโครงการที่มีงบประมาณสูงและได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ป.ป.ช. ได้เก็บข้อมูลและให้ข้อสังเกต ในเชิงป้องปรามหลังจากการจัดทำผังแม่บทแล้วเสร็จ โดยให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริต เชิงนโยบายในโครงการขนาดใหญ่
โดยโครงการขนาดใหญ่คือโครงการที่ของบประมาณหรือได้รับจัดสรรงบลงทุนตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงในวงกว้าง การแก้ไขปัญหาการทุจริต ในโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างบูรณาการจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมถึงเจตจำนงทางการเมืองที่แข็งขันในการสร้างความโปร่งใส เพื่อให้โครงการมหกรรม พืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 บรรลุวัตถุประสงค์และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติอย่างแท้จริง