เมื่อวันที่ 11 กันายน 2568 นายประภาศ  คงเอียด  กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) แถลงข่าวผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4   และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในเขตพื้นที่ภาค 4 เปิดเผยว่า  ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นาย ส. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอิเฒ่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ กับพวก ทุจริตการสอบแข่งขันเพื่อสรรหาและ เลือกสรรพนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งผู้ดูแลเด็ก (ทักษะ) เมื่อเดือนเมษายน 2563

จากกรณีกล่าวหา นาย ส. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอิเฒ่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ กับพวก ทุจริตการสอบแข่งขันเพื่อสรรหาและเลือกสรรพนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่งผู้ดูแลเด็ก (ทักษะ) เมื่อเดือนเมษายน 2563 คดีหมายเลขดำที่ 44 - 1 - 157/2564  คดีหมายเลขแดงที่ 0704 – 1 – 50/2568

ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 55/2568 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติ ดังนี้ การกระทำของนาย ส. มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตน   อันเป็นความเท็จ และรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริง อันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ฐานปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ และใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 มาตรา 161 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 มาตรา 265 และมาตรา 268 ประกอบมาตรา 84 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ  เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืน    ต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่  ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

การกระทำของนาย พ.มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่   ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ และรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น  มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ฐานเป็นผู้สนับสนุนการปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ และฐานเป็นผู้สนับสนุนการใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 161 มาตรา 162 (1) (4) มาตรา 265 และมาตรา 268 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด  หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน  และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมูลความผิด    ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการ  ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

การกระทำของนาง ค. นาง ก. และ นางสาว ร. มีมูลความผิดทางอาญา ในฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  หรือโดยทุจริต การปลอมและใช้เอกสารราชการ รวมถึงการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 161, 162, 265 และ 268 อีกทั้งยังเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบ ปฏิบัติราชการโดยฝ่าฝืนกฎหมาย กฎ ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตลอดจน  การประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามหลักเกณฑ์การสอบสวนและลงโทษทางวินัยของคณะกรรมการพนักงาน   ส่วนตำบลจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2558

การกระทำของนางสาว จ. และนางสาว ด. มีมูลความผิดทางอาญา  ในฐานะผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ทั้งในการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต การสนับสนุนการปลอมและใช้เอกสารราชการ รวมถึงการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 161, 162 ประกอบมาตรา 86, 265 และ 268

 อีกทั้งยังเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับนาย ส. นาย พ. นาง ค. นาง ก. นางสาว ร. นางสาว จ. และ นางสาว ด. และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นาง ค. นาง ก. และ นางสาว ร.

และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับ นาย ส. และ นาย พ. ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) มาตรา 98 และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ